เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกฯฝ่ายการเมืองว่า การที่รับตำแหน่งดังกล่าว เพราะคิดว่าจะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ รวมถึงสังคมได้ เป้าหมายที่เข้ามานั้นเพื่อเข้าต้องการผลักดันโครงการเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจะเป็นตัวกลางในการผลักดันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตนเองทราบปัญหาของคนในพื้น และทำประโยชน์แก้ไขปัญหาต่างๆ มามาก เมื่อรัฐบาลเห็นตนเป็นคนในพื้นที่ใกล้ชิดประชาชน ก็พร้อมที่จะรับตำแหน่ง และเชื่อว่าสามารถผลักดันเนื้องานให้เกิดประโยชน์ได้ ส่วนจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมืองใดนั้น ต้องขอดูการประกาศแต่งตั้งที่ชัดเจนก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายสงสัยถึงการรับตำแหน่งครั้งนี้ เพื่อปูทางในอนาคตจะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า การเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นั้นไม่อยากให้หลายฝ่ายมองเป็นเรื่องการเมือง ขอยืนยันว่าการรับตำแหน่งนี้เพื่อการทำประโยชน์ให้พื้นที่และสังคม และเวลานี้ตัวเองก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังชล และยืนยันสถานะสมาชิกภาพไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
” ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมือง และไม่ใช่เรื่องเงื่อนไขที่เป็นข้อตกลงทางการเมืองแต่อย่างใด สำหรับเรื่องนี้ได้พูดคุยกับรองนายกฯ สมคิด (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี) ซึ่งสืบเนื่องมาจากเรื่องอีอีซี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ร่วมทำมาตั้งแต่เริ่มต้น และได้ติดตาม ช่วยเหลือโครงการที่ลงมาในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จึงมองว่าในเมื่อเราอยู่ในพื้นที่ และถ้ามีโอกาสเข้าไปทำงาน ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้นำความต้องการจากภาคประชาชน เข้ามาถึงรัฐบาล เป็นการลดช่องโหว่ ในเมื่อเป็นบ้านเรา จึงถือว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นหลัก อีกทั้งเห็นว่าอีอีซีสามารถพัฒนาโครงข่ายเศรษฐกิจหลักได้ งบประมาณก็จะลงมาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเป้าหมายเกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ” นายสนธยากล่าว
นายสนธยา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รับตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น เพราะเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายสมัยและทำงาน ให้กับเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยมานาน อีกทั้งมีตำแหน่งนายกสมาคม วินเซิร์ฟแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถสร้างแชมป์โลกได้หลายคนแล้ว จึงถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้เข้ามาทำงาน เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกีฬาและการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแง่การเมือง กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคพลังชลถูกดูด หัวหน้าพรรคพลังชลกล่าวว่า พรรคพลังชลยังเป็นพรรคพลังชล ไม่มีถูกดูด และตนยืนยันสมาชิกภาพพร้อมจ่ายค่าบำรุงสมาชิกพรรคตลอดชีพไปแล้ว เรายังทำงานในฐานะพรรคพลังชล
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าอนาคตของพรรคพลังชล ต้องได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอนใช่หรือไม่ นายสนธยากล่าวว่า “ยังไม่รู้เลย ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ใครจะมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลซึ่งนั่นเป็นเรื่องในอนาคตที่เรายังไม่ได้คิดว่าเราจะเป็นพรรคร่วม หรือเราจะต้องร่วมอย่างไร คิดเพียงว่า ตอนนี้การที่เราเข้ามาทำงานตรงนี้ เราถือเอาบ้านเมืองเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อยังไม่รู้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร แล้วเรามาบอกว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน คงไม่พูดอย่างนั้น”
Cr.prachachat
สำนักข่าววิหคนิวส์