เมื่อคืนวันที่ 23 ธันวาคม เวลาประมาณ 22:00 น. เครื่องบินของสภาทหารพม่าได้ทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศ ในหลายพื้นที่ของ จ.ดูปลายาและ จ.เมียวดี กองพลที่ 6 พื้นที่ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงKNU ทำให้ประชาชนที่ขออนุญาติกลับไปก่อนหน้านี้เพื่อไปดูบ้านเรือนของตน ต้องกลับมาฝั่งชายแดนไทยอีกครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารไทยอำนวยความสะดวกให้กับผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรม
ลักษณะการโจมตีของสภาทหาพม่าตลอดมา มักจะไม่สนใจว่าเป้าหมายที่โจมตีนั้นเป็นพลเรือนหรือไม่สังเกตุเห็นได้จากการยิงปืน ค.ที่ผ่านมา มักจะตกตามหมู่บ้านของประชาชน แม้กระทั่งตกมายังฝั่งไทย ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งการโจมตีทางภาคพื้นดินและทางอากาศของสภาทหารพม่า(SAC)ประชาชนจึงต้องหนีหาที่ปลอดภัย
ต้นเหตุของการปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่พื้นที่กองพล6 ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงKNU ได้ให้ที่พักพิงแก่ประชาชนกลุ่มที่ต่อต้านการรัฐประหารในพม่าที่หนีการปรับปรามจากสภาทหารพม่าอย่างรุนแรง มาอยู่อาศัยชั่วคราว แต่สภาทหารพม่ากลับส่งกำลังมากว่า200นาย มาตรวจค้นบ้านเรือนและจับกุมประชาชนในพื้นที่ตามอำเภอใจอีกทั้งยังระดมยิงปืนใหญ่หรือปืนค.เข้ามาในหลายหมู่บ้านซึ่งมีพลเรือนทั้งเด็ก สตรี และคนชราอาศัยอยู่
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงKNU จึงจำเป็นต้องปกป้องประชาชนของตนเองและก็เกิดการปะทะกันขึ้นในที่สุดระหว่าง กองกำลังปลดปล่อยกะเหรี่ยงแห่งชาติKNLA กองกำลังพิทักษ์กะเหรี่ยงKNDO กับ สภาทหารพม่า(SAC)