วันที่ 5 ก.ค.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ในวาระ 2 และวาระ 3 ตามที่กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พิจารณาแล้วเสร็จ โดยมี
สาระสำคัญคือ การกำหนดวิธีเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบ เป็นส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ใช้วิธีคำนวณ หาส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยนำคะแนนบัญชีรายชื่อทั้งประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย 100 เพื่อเป็นคะแนนเฉลี่ยคิดส.ส.บัญชีรายชื่อ ต่อ 1 คน
ในช่วงแรกการพิจารณาเป็นไปอย่างราบรื่น จนถึงมาตรา 6 เรื่องการกำหนดจำนวนส.ส. ที่แต่ละจังหวัดพึงมี นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ. อภิปรายเสนอเพิ่มเติมให้มีมาตรา 6/3 ประเด็นการให้หมายเลขผู้สมัครส.ส.เขต กับส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหมายเลขเดียวกันทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนจำได้ง่าย ป้องกันความสับสน ไม่ควรให้เป็นบัตรคนละเบอร์ ถือว่าวินๆกันทุกฝ่าย ประชาชนได้ประโยชน์ ส่วนกกต.จัดการเลือกตั้งได้ง่าย แต่ปรากฏมีผู้อภิปรายขอหารือว่า ไม่สามารถอภิปรายได้ เพราะเนื้อหาเรื่องบัตรสองใบ คนละเบอร์ไม่ได้มีเนื้อหาอยู่ในมาตราใดของร่างกฎหมายฉบับนี้เลย จนสมาชิกเกิดความสับสน
จากนั้นนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานที่ประชุม แจ้งว่า ประธานกมธ.แจ้งว่ามีการทำรายงานมาไม่ครบถ้วน เพราะไม่มีการเขียนเนื้อหาที่กมธ.เสียงข้างน้อยสงวนคำแปรญัตติขอแก้ไขไว้ ทำให้เนื้อหาดังกล่าวหายไปจากร่างกฎหมาย ขอพักประชุม 15 นาที ไปแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง หลังจากพักไปร่วมชั่วโมงครึ่ง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประธานที่ประชุมแจ้งว่า ประเด็นที่ถกเถียงกันคือ มาตรา6/3ที่ขอแปรญัตติ ไม่มีอยู่ในรายงานของกมธ. ทั้งที่มีผู้ขอแปรญัตติถึง 4กลุ่มไว้จริง วิธีแก้ปัญหาคือ จะขอให้ลงมติมาตรา6/2ไปก่อน แล้วค่อยให้ผู้แปรญัตติมาอภิปรายในมาตรา6/3 เรื่องบัตร 2ใบคนละเบอร์กันต่อไป
ต่อมานายชวนขอให้ลงมติมาตรา6/2 แต่บรรยากาศในที่ประชุมมีสมาชิกอยู่บางตา โดยเฉพาะส.ส.รัฐบาลอยู่ในห้องประชุมกันน้อย ทำให้ต้องกดสัญญาณเรียกหลายรอบ ร่วม15นาที ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีบางฝ่ายไม่ยอมแสดงตน ฝ่ายข้างมากพยายามชะลอการบังคับใช้กฎหมายนี้ จะสูตร500หรือ100 ฝ่ายค้านพร้อมสู้ แต่ไม่ทราบว่า ทำไมมีความพยายามไม่ให้กฎหมายนี้สำเร็จ ถ้ายังไม่ครบแบบนี้ ปิดประชุมไปเลย ในวันที่ 6ก.ค.ที่จะประชุมวิป 3 ฝ่าย หารือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ต้องมาคุยกันอีก
ขณะที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวเสริมว่า ตอนพักประชุมบอก จะใช้เวลา 15นาที แต่กลับกินเวลาไป 1.30ชั่วโมง ทำให้ส.ส.เข้าใจผิดกลับบ้านไปบางส่วน จึงเสนอให้ปิดประชุม
อย่างไรก็ตามนายชวนได้พยายามไกล่เกลี่ย พร้อมขอร้องให้อดทนรอต่อไป หลังจากรออยู่เกือบ 30นาที จึงให้ส.ส.แสดงตน ปรากฏว่ามีองค์ประชุม 364เสียง ถือว่าครบองค์ประชุม จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับมาตรา 6/2 ก่อนที่จะดำเนินการพิจารณาเรียงมาตราต่อๆไป โดยให้สมาชิกอภิปรายไปเรื่อยๆจนกว่าถึงเวลาปิดประชุมตามกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สมาชิกอภิปรายมาตรา 6/3 เสร็จ นายชวนได้ขอแสดงตนเพื่อนับองค์ประชุม ก่อนที่จะลงมติ แต่ปรากฎว่ามีสมาชิกอยู่จำนวนน้อยมาก โดยนายชวนถึงกลับเอ่ยปากว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องเวลา แต่ยังขาดอยู่อีกร้อยกว่าคนเท่านั้น
ขณะที่นายอรรถกร ศิริรัฐยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอให้ปิดการประชุม แล้วเลื่อนลงมติไปในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ค.) จากนั้นนายชวนได้สั่งปิดประชุมในเวลา 19.25 น.