ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #”สมชัย”ประกาศลงสมัครเป็นเลขาฯกกต. อ้างยอมสละตัวเพื่อเป็นทางออกประเทศ

#”สมชัย”ประกาศลงสมัครเป็นเลขาฯกกต. อ้างยอมสละตัวเพื่อเป็นทางออกประเทศ

27 February 2018
689   0

“สมชัย” ลงสมัครเลขาฯ กกต.ตามคาด อ้างยอมสละตัวเป็นทางออกประเทศ ยอมขัดใจภรรยาทั้งที่สั่งให้ลาออกไปทำงานอื่น ให้โอกาส 4 กกต.เลือกอนาคตให้ตัวเอง วอนมาสมัครกันมากๆ เพื่อเป็นตัวเลือก จะไม่ล็อบบี้ หรือใช้สิทธิ์ในฐานะ กกต.โหวตให้ตัวเอง

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 26 ก.พ. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐาน ในการสมัครเป็นเลขาธิการ กกต. ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากมาติดตามทำข่าว เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่านายสมชัย จะลาออกจากตำแหน่ง กกต. โดยนายสมชัย ให้เหตุผลการลงสมัครเลขา กกต.ในครั้งนี้ว่า เนื่องจากเห็นว่าเหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน แต่คนยังสมัครน้อย อย่างไรก็ตามสาเหตุหลัก เพราะเห็นว่าคสช.มีเจตนาที่จะให้กกต.ชุดใหม่ที่มีคุณสมบัติสูงมีเอกภาพเป็นปลาน้ำเดียวทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งในทุกระดับ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ประชุมสนช. ไม่รับรอง 7 กกต. ทำให้ต้องการสรรหาใหม่ และคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ราวเดือนส.ค.จึงจะได้ กกต.ชุดใหม่ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่นตามความต้องการของคสช. และยังต้องเจอปัญหา นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบ 70ปี ในวันที่ 7 ส.ค. นี้ ความฉุกละหุกในการได้ กกต.ชุดใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีผลทำให้การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดความไม่ราบรื่น หรือถ้าหากในเดือน ส.ค. การสรรหากกต.ยังได้ไม่ครบ ต้องมีการสรรหาเพิ่มซึ่งก็ใช้เวลาเพิ่มเติมไปอีก 6 เดือน

โดยจะไปครบในเดือน ก.พ. 62 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะมีการเลือกตั้งทั่วไป ขณะเดียวกันนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ในวันที่ 8 ก.พ.62 ปรากฏการณ์ในทำนองนี้เป็นอะไรที่อึกอัดพอสมควรต่อทุกฝ่ายในบ้านเมือง เพราะ กกต.ชุดใหม่ที่มาก็ต้องทำงานทันที ไม่มีเวลาเรียนรู้งาน ขณะที่ กกต.เก่าซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องพ้นไปเมื่อไหร่ แม้จะทำงานเต็มที่ แต่กลไกลการปฏิบัติจะไม่เอื้อให้เกิดประโยชน์ เพราะฝ่ายปฏิบัติจะมองว่าเราไม่ใช่ตัวจริง ดังนั้น ที่ตัดสินใจยื่นสมัคร จึงเป็นการหาทางออกให้กับตัวเองและบ้านเมือง เพราะถ้าไมได้รับเลือกให้เลขาฯ ก็ยังทำหน้าที่ กกต. ช่วยในเรื่องของการเตรียมการเลือกตั้ง หรือถ้าได้รับเลือกเป็นเลขาฯ ก็จะได้ทำหน้าที่ให้การส่งมอบงานให้กับ กกต.ชุดใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น

“ดังนั้นสิ่งที่ผมตัดสินใจในวันนี้ ผมคงต้องใช้คำว่า ไม่ได้สละเรือใหญ่โดดหนี กกต. 5 คน หากเห็นว่าผมเหมาะสมกับตำแหน่งเลขาฯ อาจให้ผมโดดไปอยู่เรือเล็ก เพื่อที่จะทำหน้าที่สนับสนุนเรือใหญ่ ซึ่งก็แล้วแต่ กกต. ผมจะไม่ล็อบบี้ใดๆ จะแข่งขันภายใต้ความเท่าเทียมกันของผู้สมัครทุกคน และให้กำลังใจกับผู้สมัครทุกคน ที่ผมลงไม่ได้แปลว่าผมจอง หรือ กกต.จะเลือกผม เพราะกาเลือกต้องอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน คือต้อง แสดงวิสัยทัศน์ ตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่ใช้สิทธิ์ความเป็น กกต.เอาเปรียบผู้สมัครคนอื่น และการสมัครก็ไม่ใช่เพราะอยากออกจากการเป็น กกต. แต่เห็นว่าแนวทางดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดวิกฤติ เนื่องจากว่าหาก กกต.4 คนเลือกผม ตามปฏิทินของกรรมการสรรหา 1 มิ.ย.จะต้องมีเลขาฯคนใหม่ โดยจะมีการเสนอให้ที่ประชุม กกต. พิจารณาในวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งผมจะลาพักร้อนไม่ร่วมประชุม เพื่อให้ กกต.ตัดสินใจอย่างเสรี ไม่ต้องเกรงใจ หากได้รับเลือกผมก็จะต้องลาออกในวันที่ 31 พ.ค.มีผลให้ กกต.เหลือ 4 คน ซึ่งก็ยังทำงานและลงมติเรื่องสำคัญได้ จนกระทั่งถึงวันที่ 7 ส.ค.ที่นายบุญส่งต้อพ้นไป ถ้าวันนั้นยังไม่ไม่มีคำสั่งจาก คสช.ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ก็จะทำให้เหลือ กกต.3 คน ในเวลาสั้นๆ เพราะปลายสิงหาก็จะได้ กกต.ใหม่เข้ามาทำงานแล้ว” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย ยังกล่าวว่า ถ้าหากตนไปเป็นเลขาฯ การพูดจาก็จะสงบเสงี่ยมมากขึ้น แถลงเฉพาะที่เป็นมติที่ กกต.มอบหมาย และ กกต.ไม่ต้องกังวลกับการทำงานของตน หากไม่พอใจผลการทำงานในแต่ละปีที่จะต้องมีการประเมิน ก็สามารถเลือกจ้างโดยจะไม่มีเสียงโวยวายจากตนเลย แต่ถ้าหากที่ประชุม กกต.เห็นว่าตนสมควรที่จะอยู่ในเรือใหญ่ ก็ลงมติเลือกคนอื่นเป็นเลขาฯ ซึ่งการตัดสินใจของ กกต.ถือว่าเป็นเกียรติแก่ตนมาก ซึ่งก็จะทำหน้าที่ กกต.ต่อไปจนกว่า กกต.ใหม่จะมารับตำแหน่ง แต่ถ้าหากให้ลงเรือเล็กก็ดีใจน้อยลงมาหน่อย แต่ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการส่งมอบ ขอเป็นเรือเล็กที่ประคองเรือลำใหญ่ เพราะฉะนั้นทุกอย่างถือว่าลงตัวที่สุดในเชิงทางออก กกต.ใหม่จะมาเมื่อไหร่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะจะมีคนรู้เรื่องคอยดูแล และ กกต.ชุดหน้าก็จะมาเป็นปลาน้ำเดียวกัน ตนก็จะถอยไปเป็นอีกสปีชีส์หนึ่งที่ต่ำกว่า คือ แมงกะพรุนที่อยู่ในทะเลเดียวกันได้

เมื่อถามว่าเป็นการเหยียบเรือสองแคมหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า แล้วแต่จะคิด แต่ดีกว่าออกจากเรือโดยไม่มีเยื่อใยแล้วเกิดปัญหาบ้านเมือง เพราะตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.ที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออก ก็ได้มีคนส่งข้อความมาสนับสนุนให้ลาออก โดยเฉพาะภรรยาที่เกือบจะเป็นคำสั่ง ว่าไม่ประสงค์ให้อยู่ในตำแหน่ง กกต.เลยอีกต่อไป ให้ไปทำงานอื่นที่อีกว่า สบายใจกว่า แต่ผมก็เห็นว่าไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาบ้านเมือง ตนสมัครวันนี้ยังมีเวลาอีก 2 เดือนเต็มที่จะไปใคร่ครวญ


นายสมชัย ยืนยันการสมัครเป็นเลขาฯ ไม่ถือว่าถือว่าลดตำแหน่ง เพราะคนที่เคยเป็นนายกฯ ยังมาเป็นรองนายกฯ คนที่เป็นรัฐมนตรียังมาเป็นรัฐมนตรีช่วยฯได้ จึงอยู่ที่ว่าเรารู้บทบาทในตำแหน่งหน้าที่ที่ทำอยู่หรือไม่ แต่เมื่อถามย้ำว่าการสมัครครั้งนี้ได้เปรียบผู้สมัครคนอื่นๆหรือไม่ โดยเฉพาะคนใน กกต.ด้วยกัน นายสมชัย ย้ำว่า ขึ้นอยู่กับการที่จะมอง และกรรมการสรรหา และ กกต.ที่จะเป็นผู้พิจารณา ตนไม่ได้มองหรือคิดเรื่องนี้ มองแต่ทางออกของชีวิตและทางออกของบ้านเมือง และทางออกนั้นจะเป็นอย่างไร กกต.อีก 4 คนจะตัดสินใจ

Cr.ข่าวสด

สำนักข่าววิหคนิวส์