นาย “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และ “ไทด์ เอกพัน” ได้เดินทางมาถึงบ้านของ “สมบัติ เมทะนี” เพื่อทำการกราบลาและเคลื่อนย้ายร่างของ “สมบัติ” เบื้องต้นแจ้งว่าจะนำร่างไปที่สถาบันนิติเวช เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต จากนั้นจะนำร่างของ “สมบัติ ” ไปทำพิธีกรรมทางศาสนา
จากนั้นทางครอบครัวและ “บิณฑ์-ไทด์” ได้ทำการเคลื่อนร่างของ “สมบัติ ” โดยมีพระสงฆ์ 1 รูปนำขบวน พร้อมลูกสาวของสมบัติที่ถือกระถางธูป ลูกชายถือรูปภาพคุณพ่อ ต่อด้วย “บิณฑ์และไทด์” พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการเคลื่อนร่างของสมบัติขึ้นรถ
ทั้งนี้ปรากฎว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้เดินทางไปที่สถาบันนิติเวช แต่มุ่งหน้ามาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ บางเขน และถึงศาลาพ่วงจินดา เวลา 13.25น. ทางภรรยาได้จุดธูปบอกกล่าวขออนุญาตนำร่างมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยสาเหตุที่เปลี่ยนใจไม่นำร่างของ “สมบัติ เมทะนี” ไปสถาบันนิติเวช เนื่องจากป่วยโรคชรา ไม่ได้เสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงนำร่างมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัด
สิรคุปต์ เมทะนี หรือ “อั๋น” ลูกชาย “สมบัติ เมทะนี” เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกตกใจและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของพ่อ ต้องใช้เวลาอีกสักพัก โดยตนได้ไปส่งเข้านอนประมาณ 3 ทุ่ม คุณพ่อหลับไปตามปกติ ไม่ได้สั่งเสียอะไร เสียชีวิตด้วยโรคชรา ถือว่ามีบุญมาก ตนจะดูแลครอบครัวเองไม่ต้องเป็นห่วงอะไร
ด้านบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจและเสียดายต่อการจากไปของ “พ่อแอ๊ด” โดยขอให้ “พ่อแอ๊ด” สบายใจได้ ไม่ต้องห่วงอะไร ตนจะช่วยดูแลเองครอบครัวเอง พร้อมยอมรับว่า รู้สึกกะทันหันมาก พร้อมเปิดคลิปวีดีโองานวันเกิดซึ่งตนจัดให้ “พ่อแอ๊ด” เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา สุขภาพยังแข็งแรง เต้นได้เป็นชั่วโมงๆ ไม่มีเหนื่อย ไม่คิดว่าจะจากไปเร็วแบบนี้ ซึ่ง “พ่อแอ๊ด” มีปัญหาแค่เรื่องสายตาที่มองไม่ค่อยถนัด โดย “พ่อแอ๊ด” เคยสัญญาว่าจะอยู่ 100 ปี แต่กลับไม่ทำตามสัญญา
ขณะที่บรรยากาศบริเวณศาลา นาวาอากาศเอก ขรรชัย – คุณอาภรณ์ พ่วงจินดา ภายในวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน เป็นไปอย่างโศกเศร้า มีดาราศิลปินทยอยมาร่วมพิธีรดน้ำศพ ในช่วง 16.00 น.