คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของเยอรมนีเมื่อวันจันทร์ (4 เม.ย.) ปฏิเสธเสียงเรียกร้องที่ขอให้สหภาพยุโรปกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย แม้เหตุเสียชีวิตของพลเรือนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในยูเครน เพิ่มแรงกดดันให้ทางกลุ่มคว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซีย ขณะเดียวกัน จีน ผู้บริโภครายใหญ่ของโลก เผยกำลังหาทางซื้อพลังงานราคาถูกจากมอสโกเพิ่มเติม
“เรากำลังจัดการกับอาชญากรรมสงคราม” ลินด์เนอร์กล่าวก่อนพูดคุยกับบรรดารัฐมนตรีคลังของอียูในบรัสเซลส์ “ชัดเจนว่าเราต้องหยุดทุกความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซียเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก๊าซไม่สามารถสำรองได้ในระยะสั้น เราจะก่อความเจ็บปวดแก่ตนเองมากกว่าพวกเขา ถ้าการแบนเต็มรูปแบบสามารถหยุดสงครามได้ในวันพรุ่งนี้ เราจะทำมันในทันที แต่การแบนดังกล่าวรังแต่จะทำให้ราคาของสงครามนี้พุ่งสูงขึ้นไปอีก”
ลินด์เนอร์ แนะนำว่าแทนที่จะใช้วิธีคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานทั้งหมดจากรัสเซีย อียูควรใช้วิธีลงโทษไปที่เชื้อเพลิงแต่ละประเภทแบบแยกส่วนกัน เนื่องจากแหล่งทดแทนน้ำมันนั้นสามารถหาได้ง่ายกว่าแหล่งทดแทนก๊าซธรรมชาติ
รัสเซียคือผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติป้อนประเทศในยุโรปเป็นสัดส่วนราว 40% ของปริมาณที่ใช้ทั้งหมดในยุโรป และเยอรมนีคือหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมากที่สุด
ดูเหมือนว่าสมาชิกในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ มีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซีย ท่ามกลางแรงกดดันที่มีมากขึ้นให้บรรดาผู้นำอียูลงโทษรัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หนักหน่วงขึ้น หลังพบหลักฐานที่อ้างว่าทหารรัสเซียกระทำโหดร้ายป่าเถื่อนกับพลเรือนยูเครน
เมื่อวันอาทิตย์ (3 เม.ย.) รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี คริสทีน แลมเบรชต์ กล่าวว่า สหภาพยุโรปต้องหารือกันเกี่ยวกับการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย หลังคำกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ยูเครนและยุโรป ที่ว่ากองกำลังรัสเซียกระทำโหดร้ายป่าถื่อนกับพลเรือนยูเครนใกล้ๆ กรุงเคียฟ เพิ่มความหวังเยอรมนีจะทบทวนจุดยืนต่อต้านมาตรการแบนภาคพลังงานของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี โรเบิร์ต ฮาเบ็ค แย้งว่า เยอรมนียังไม่ควรสั่งห้ามการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียในตอนนี้ แต่ควรลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียแบบค่อยเป็นค่อยไป “เรากำลังทำงานทุกวันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมล่วงหน้า ในก้าวย่างต่างๆ ที่มุ่งหน้าสู่การห้ามนำเข้า” เขากล่าวระหว่างแถลงข่าวในวันจันทร์ (4 เม.ย.) พร้อมระบุแนวทางนี้จะ “ก่อความเจ็บปวดแก่ปูตินในทุกๆ วัน”
เยอรมนียกระดับมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานบรรดาผู้บริหารและนักการเมืองของรัสเซีย สินค้าทางเทคนิคและกระแสเงิน แต่ไม่ได้แบนนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน โดยบอกว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเยอรมนีมากกว่ารัสเซีย
พวกนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ บอกว่าเยอรมนีจะเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรงหากหยุดทำเข้าพลังงานจากรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มาเตอัส โมราเวียซกี กล่าววิจารณ์ผู้นำเยอรมนีที่ไม่ยอมเพิ่มการลงโทษต่อรัสเซีย โดยระบุว่า “นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ไม่ควรฟังเสียงผู้นำธุรกิจในเยอรมนี แต่ควรฟังเสียงของสตรีและเด็กผู้บริสุทธิ์มากกว่า”
ผู้นำโปแลนด์กว่าด้วยว่า “เหตุการณ์นองเลือดจากการสังหารหมู่ในยูเครนด้วยน้ำมือของทหารรัสเซีย สมควรถูกเรียกว่าการสังหารล้างเผ่าพันธุ์”
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากรัสเซีย อาศัยข้อได้เปรียบราคาที่ถูกลง เล็งจัดซื้อธรรมชาติเหลวจากมอสโกเพิ่มเติม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันจันทร์ (4 เม.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้ พร้อมระบุว่า การจัดซื้อเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีเจตนาเพื่อเติมเต็มคลังสำรอง ก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงฤดูร้อน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ซิโนเปกและเปโตรไชนา 2 รัฐวิสาหกิจของจีน เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ร่วมหารือกันในเรื่องดังกล่าว แหล่งข่าวระบุ พร้อมบอกว่าบรรดาผู้นำเข้าบางส่วนกำลังพิจารณาใช้บริษัทสัญชาติรัสเซียเข้าร่วมประกวดราคาซื้อ LNG ในนามของพวกเขา เพื่อปิดบังแผนจัดซื้อจัดหาของพวกเขาไม่ให้รัฐบาลต่างชาติรับรู้
ความเป็นไปได้ของการจัดซื้อมีขึ้นในขณะที่บางประเทศ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรกำหนดมาตรการแบนนำเข้าพลังงานรัสเซีย ส่วนหนึ่งในการคว่ำบาตรลงโทษกรณีรุกรานยูเครน แต่อียูปฏิเสธทำตาม
(ที่มา : รอยเตอร์/บลูมเบิร์ก)