ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยในวันอังคาร (21 มิ.ย.) มีแผนพูดคุยหารือกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในขณะที่เขากำลังพิจารณายกเลิกมาตรการรีดภาษีสินค้าบางส่วนที่กำหนดเล่นงานปักกิ่ง ในความพยายามคลี่คลายภาวะเงินเฟ้อที่สูงลิ่วในอเมริกา
“ผมมีแผนสนทนากับประธานาธิบดีสี แต่เรายังไม่ได้กำหนดวันเวลา” ไบเดนบอกกับผู้สื่อข่าว หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ไบเดนระบุว่า การต่อโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำจีน “อาจมีขึ้นเร็วๆ นี้”
การพูดคุยระหว่างผู้นำทั้งสองครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม โดยหนนั้นประธานาธิบดีไบเดน เตือนประธานาธิบดีสี อย่าได้ให้ความช่วยเหลือรัสเซียในปฏิบัติการรุกรานยูเครน
มาตรการรีดภาษีสินค้าจีนถูกกำหนดขึ้นในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยสหรัฐฯ ประกาศกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงถึงร้อยละ 25 สำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายลงโทษในสิ่งที่สหรัฐฯ เรียกร้องพฤติกรรมการค้าที่ไม่ยุติธรรมของจีน และเพื่อปกป้องบรรดาผู้ผลิตสหรัฐฯ
มาตรการดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมในทางการเมือง แต่ด้วยอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในปัจจุบัน ไบเดนจึงต้องดิ้นรนหาทางปลดเปลื้องแรงกดดันทางราคา และเขาบอกว่ากำลังพิจารณายกเลิกมาตรการรีดภาษีบางส่วน
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่หลายคนมีความเห็นตรงกันว่าการผ่อนปรนมาตรการรีดภาษีอาจช่วยสยบภาวะเงินเฟ้อให้อ่อนแรงลง
ทั้งนี้ เดิมทีการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างไบเดนกับสี น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้อยู่แล้ว ส่วนหนึ่งเพราะว่ามาตรการรีดภาษีบางส่วนในสมัยของทรัมป์ มีกำหนดหมดอายุลงในเดือนกรกฎาคม จนกว่าจะมีการต่ออายุเพิ่มเติม
(ที่มา : เอเอฟพี)