กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันจันทร์ (25 เม.ย.) อนุมัติขายกระสุนมูลค่า 165 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน เพื่อช่วยปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย จากการเปิดเผยของเพนตากอน
ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลยูเครนขอซื้อกระสุนที่เรียกว่ากระสุนไม่มาตรฐานหลายชนิด อ้างถึงกระสุนที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของนาโต้
เพนตากอนระบุว่า แพกเกจข้อเสนอซื้อดังกล่าว ประกอบด้วย กระสุนปืนใหญ่สำหรับปืนใหญ่วิถีโค้ง รถถังและเครื่องยิงลูกระเบิด เช่น กระสุน 152 มม.สำหรับปืน 2A36 Giatsint กระสุน 152 มม.สำหรับปืน D-20 cannons กระสุน VOG-17 สำหรับเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AGS-17 กระสุน HE 125 มม.สำหรับรถถัง T-72 และกระสุน 152 มม. สำหรับปืนครก 2A65 Msta
“ในขณะที่กองกำลังยูเครนใช้กระสุนปกป้องประเทศของพวกเขา ความต้องการเติมเต็มในทุกๆ วันของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศรายหนึ่งกล่าว พร้อมระบุว่า คลังกระสุนระดับต่ำอย่างยิ่งของยูเครน เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลสำหรับการใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของกระทรวงการต่างประเทศ
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 2019 โดยคราวนั้นรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แจ้งต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภา ว่า พวกเขาจะเดินหน้าจัดส่งอาวุธให้ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน ตามข้อตกลงซื้อขาย 22 ฉบับ
รัฐบาลของทรัมป์ ข้ามขั้นตอนการขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และเดินหน้าจัดส่งอาวุธให้ทั้ง 3 ประเทศตามข้อตกลงซื้อขาย โดยอ้างว่าคำสั่งชะลอการขายของสภาคองเกรสจะกระทบต่อศักยภาพด้านการปฏิบัติการของพันธมิตรอาหรับ
ความเคลื่อนไหวดังกลาวสร้างความไม่พอใจต่อสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเกรงว่าอาวุธของอเมริกาอาจถูกนำไปใช้เข่นฆ่าพลเรือนเยเมน หลังจากมันหลบหลี่ยงขั้นตอนที่ปฏิบัติตามกันมาอย่างช้านาน ซึ่งกำหนดให้การขายอาวุธสำคัญๆ ต้องผ่านการพิจารณาทบทวนจากสภาคองเกรสเสียก่อน
สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหม (ดีเอสซีเอ) ของเพนตากอน แจ้งให้สภาคองเกรสทราบเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะขายกระสุนแก่ยูเครนในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.)
“ดูเหมือนรัฐบาลไบเดนจะอ้างว่าการตอบโต้การรุกรานของรัสเซียอยู่ในผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ต่างจากที่ทรัมป์ทำในเรื่องเกี่ยวกับอิหร่าน และขายอาวุธแก่พันธมิตรตะวันออกกลางในปี 2019” เจฟฟ์ อับราซัม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสมาคมควบคุมอาวุธบอกกับรอยเตอร์
อับราซัม กล่าวว่า จนถึงตอนนี้เรื่องของยูเครนได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากทั้ง 2 พรรค “แต่หากมันเป็นการมอบแก่ประเทศหนึ่งๆ ที่สมาชิกรัฐสภาไม่ค่อยเห็นพ้องต้องกันเท่าไหร่ว่ามีความจำเป็น คุณคาดหมายได้เลยว่าจะเห็นบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสตั้งคำถามว่ามันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างแท้จริงหรือไม่ ในมุมมองด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ”
(ที่มา : รอยเตอร์)