วันอังคารที่ผ่านมา (3 ต.ค.) รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ในสถานเอกอัครราชทูตคิวบาประจำกรุงวอชิงตันจำนวน 15 รายออกจากประเทศ เพื่อตอบโต้ “การโจมตี” ปริศนาที่นำไปสู่การเรียกตัวเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮาวานากลับประเทศ
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยกับสื่อว่า หลังจากเจ้าหน้าที่การทูตคิวบาเดินทางออกจากสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในสถานทูตทั้งสองแห่งจะเหลือจำนวนใกล้เคียงกัน
“เจ้าหน้าที่การทูตคิวบาที่ถูกขับออกไปจะต้องเดินทางออกจากสหรัฐฯ ภายใน 7 วัน” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพูด พร้อมเสริมว่า การกระทำนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ ของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ ในกรุงฮาวานาจำนวนมากกว่าครึ่งเดินทางกลับประเทศ หลังเกิดเหตุ “การโจมตี” ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพแก่เจ้าหน้าที่การทูตอเมริกันและเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ
การถอดถอนจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่กล่าว
ก่อนหน้านี้ มีการยืนยันว่าชาวอเมริกัน 22 คนที่ทำงานอยู่ในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำคิวบามีอาการป่วยทางกายภาพ
คิวบากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การถอดถอนเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ เป็น “การตัดสินใจเร่งด่วน” ที่จะกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาค
โจเซฟินา วิดัล เฟอร์เรโร (Josefina Vidal Ferreiro) อธิบดีกรมกิจการสหรัฐ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศคิวบา กล่าวในแถลงการณ์สั้นๆ ผ่านโทรทัศน์ว่า คิวบาไม่ได้ต้องรับผิดชอบต่อกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “การโจมตีด้วยเสียง” ที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พบกับบรูโน โรดริเกซ รมว.ต่างประเทศคิวบา เพื่อหารือกรณีดังกล่าว
นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม นี่เป็นการติดต่อสัมพันธ์ทางการทูตระดับสูงสุดระหว่างสหรัฐฯ และคิวบาซึ่งเป็นอดีตศัตรูยุคสงครามเย็น
ที่มา : เพจ China Xinhua News
สกฤษฏ์ สุวรรณรัตน์
สำนักข่าววิหคนิวส์