20 ธ.ค.60 นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส.กล่าวถึงการเข้าบริหารงานของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกือบ 4 ปี ว่า ตนว่างจากงานการเมืองก็ลงมือทำงานด้านเกษตร ทั้งปลูกข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และยางพารา จึงทำให้รู้ว่าทำไมเกษตรกรไทย โดยเฉพาะชาวนาไทยถึงจนซ้ำซาก โงหัวไม่ขึ้นเสียที ก็เพราะปัจจัยการผลิตทุกอย่างขึ้นราคา ทั้งเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ราคาค่าจ้างแรงงานรวมเป็นต้นทุนการผลิต แต่พอผลผลิตออกมาราคาตกต่ำ ไม่คุ้มทุน ขายอย่างไรไม่มีกำไร ที่สำคัญคือ เกษตรกรไทยไม่มีหลักประกันใดๆ ในการลงทุนผลิต แทนที่รัฐบาลจะใช้นโยบายประกันราคาพืชผลการเกษตรให้พอเป็นหลักประกัน เป็นกำลังใจให้มองเห็นอนาคตในอาชีพนี้ รัฐบาลคิดออกแค่ปล่อยเงินกู้ แทนที่จะใช้การประหันราคาพืชผลเกษตร ส่วนปุ๋ยอินทรีย์ที่รัฐอัดงบให้นับหมื่นล้านผ่านโครงการ 9101 แค่ขี้ไก่ผสมแกลบมาหลอกขายให้เกษตรกร ทำจริงไม่กี่เปอร์เซ็น เกษตรกรยิ่งช้ำไปกันใหญ่เพราะใช้ไม่ได้ผลจริง ชาวนาร้อยละ 80 ถึงเป็นหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โฉนดที่ดินถูกยึดอยู่ใน ธ.ก.ส.ยิ่งเจอน้ำท่วมขังแค่ 7 วัน ข้าวตายเรียบ แถมน้ำเน่าเสีย ขณะที่ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทนน้ำได้ราว 1 เดือน ถึงรากจะเน่าตาย น่าห่วงว่าเกษตรกร คนรากหญ้าจะหมดตัวจากหนี้สิน
แนวหน้า – นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการบัตรคนจน หรือบัตรแมงมุม ที่รัฐบาลออกมาอ้างว่าเพื่อช่วยคนจนก็ไม่ใช่ของจริง เพราะตนเคยเสนอว่าถ้าจะช่วยคนจนรายเดือนให้เงินสดเขาดีกว่าเดือนละ 300 บาท ยังดีกว่าให้บัตรแมงมุม เพราะสินค้า 48 รายการ ในโครงการธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ให้สิทธิคนจนใช่บัตรมาแลกซื้อก็ล้วนมากจากการผลิตของโรงงานใหญ่ ทุนเจ้าสัวทั้งนั้น ที่สุดมันก็คือโครงการอุ้มคนรวย ไม่ได้ช่วยคนจนอย่างที่ตีปี๊บ แถมการขายในร้านค้าบัตรแมงมุมยังไม่มีการควบคุมราคาขาย แต่ยังเดินหน้าดันทุรังทำประชานิยมซ่อนรูปต่อ ซ้ำการทุจริตคอร์รัปชั่นก็เบ่งบานมากกว่ายุคปกติ จึงขอฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ว่า ถ้าอยากเป็นนายกฯ ต่อ ก็ควรบริหารงานให้เหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สมัยที่ท่านเป็นนายกฯ ท่านกล้าตัดคนไม่ดีรอบตัวออกจากรัฐบาล ไม่เอาพวกพ้องที่ไม่ดีมากระเตงไว้และไม่เล่นตลกรายวัน ที่เห็นทั้งตลก ทั้งตวาดต่อว่าสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ มันไม่เข้าท่า ขอฝากวาทะของรัฐบุรุษของจีนคือ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่เปลี่ยนชาติจีนมาเป็นมหาอำนาจโลก ว่า อย่าตอบแทนบุณคุณส่วนตัวด้วยผลประโยชน์ของชาติ
“ที่ผ่านมา ผมเป็น กปปส.ที่เคยสนับสนุนทหารตั้งแต่วันที่เข้ามายึดอำนาจปฏิวัติจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยความคาดหวังว่าทหารเข้ามาแล้วจะปฏิรูปประเทศให้เจริฐก้าวหน้าไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยตามหลักสากลนิยมอย่างทั่วโลกเขา แต่ผ่านมาจะครบ 4 ปีแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน ไม่มีอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น หรือจับต้องได้แม้แต่เรื่องเดียว กลับมีแต่เรื่องอื้อฉาวของคนในรัฐบาล คสช.แทนที่รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้องค่าครองชีพชาวบ้าน และหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ร้านค้าเอสเอ็มอีที่เจ๊งปิดตัวกันระนาวในต่างจังหวัด แต่รัฐบาลกลับส่งเสริมนโยบายอุ้มคนรวยให้รวยกระจุกจนกระจาย มันสวนทางทั้งหมดกับที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยืนยันออกสื่อว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ผมถามว่าเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร ทั้งที่ข้อเท็จจริงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น คดีอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้น หรือที่นายสมคิดเขากล้าประกาศว่าปี 61 จะไม่มีคนจน ก็คงจะจริงตามเขาว่า เพราะคนจนมันจะตายหมดประเทศในปีหน้า แก้ไขปัญหาหลักไม่ทำ ทำแต่เรื่องฉาวโฉ่ทุจริตก็ไม่ได้ลดลงกว่ารัฐบาลปกติ ตัวนายกฯ เองก็เล่นจำอวดไปวันๆ พบนักมวยก็ชกมวย ตีแบด ตีกอล์ฟ ไปวันๆ เพื่อให้คนลืมปัญหาเรื่องความทุกข์เล่นเป็นโจ๊ก หรือจะทำให้คนลืมเรื่องแหวนเพชร นาฬิกาหรู ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมก็เชียร์ไม่ไหวแล้ว” นายอิสสระ กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์