เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วง ส.ค.เป็นต้นมา มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. – ปัจจุบัน มีรายงานผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย บาดเจ็บ 21 ราย มีสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งใน 5 จังหวัด และน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากอีก 16 จังหวัด ขณะนี้สถานพยาบาลในสังกัด สธ.ทุกแห่งยังเปิดให้บริการเป็นปกติ มีเพียง รพ.สต. 2 แห่งใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เปิดให้บริการได้บางส่วน สำหรับวันที่ 28 ก.ย. – 1 ต.ค.นี้ พายุโซนร้อน “โนรู” จะส่งอิทธิพลโดยตรงต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ร่วมกับลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงอันตรายอื่นๆ ได้ ขอให้สถานพยาบาลทุกแห่งเร่งสำรวจความแข็งแรงของสิ่งก่อสร้าง อาคาร รวมถึงระบบไฟส่องสว่าง ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดให้มีความปลอดภัย
นอกจากนี้ ให้ดูแลอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ที่อาจได้รับผลกระทบ ใช้หลักป้องกัน ยกสูง เคลื่อนย้าย รวมถึงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และผลกระทบด้านโรคและภัยสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้น สำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอต่อบริการ หากมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ให้จัดหาสถานที่สำรองหรือจัดตั้ง รพ.สนามเมื่อจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้มารับบริการ
นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ส่วนกลางได้เตรียมสนับสนุนยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย เสื้อชูชีพ รองเท้าบูท ไฟฉาย และประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน หากมีความจำเป็นสามารถขอรับการสนับสนุนมาที่ส่วนกลางได้ สำหรับประชาชนขอให้ระมัดระวังสุขภาพอนามัย ทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่ม โดยเฉพาะโรคที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำลด เช่น ตาแดง ท้องร่วง น้ำกัดเท้า และฉี่หนู หากเจ็บป่วยสามารถไปรับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินโทรสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง