สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะ สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า “ญี่ปุ่นยืนเคียงข้างยูเครน และเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิตเพราะการรุกรานของรัสเซีย ญี่ปุ่นสนับสนุนอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนอย่างเต็มที่”
.
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยจำกัดธุรกรรมกับธนาคารกลางของรัสเซีย ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางรัสเซียไม่สามารถดำเนินการกับเงินตราและทองคำสำรองมูลค่ากว่า 640,000 ล้านดอลลาร์ได้
.
นอกจากนี้ ยังอายัดทรัพย์สินของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินและเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า บุคคลเหล่านี้มีทรัพย์สินในญี่ปุ่นหรือไม่
.
ญี่ปุ่นยังร่วมกับบรรดาชาติตะวันตกระงับไม่ให้ธนาคาร 3 แห่งของรัสเซียใช้ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT ทำให้บริษัทต่าง ๆ ของรัสเซียไม่สามารถจ่าย-รับเงินจากต่างประเทศได้
.
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศระงับการออกวีซ่าให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย ห้ามบริษัทญี่ปุ่นติดต่อค้าขายด้วย ห้ามการออกและการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลของรัสเซียในญี่ปุ่น รวมทั้งห้ามการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ไปยังรัสเซีย
.
มาตรการคว่ำบาตรของญี่ปุ่นครั้งนี้ถือว่ารุนแรงกว่าเมื่อครั้งรัสเซียยึดครองไครเมียในปี 2557 ซึ่งในครั้งนั้นญี่ปุ่นใช้มาตรการที่อ่อนกว่าบรรดาชาติตะวันตก โดยเพียงแค่ระงับการเจรจากับรัสเซีย แต่ครั้งนี้ ญี่ปุ่นคว่ำบาตรทั้งทางการเงินและเทคโนโลยีต่อรัสเซีย โดยครอบคลุมทั้งด้านการทหารและและธุรกิจทั่วไปด้วย
.
รัฐบาลญี่ปุ่นยังกำลังพิจารณาคว่ำบาตรต่อเบลารุสด้วย โดยอ้างว่าเบลารุสสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรต่อประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบราลุส และจำกัดการส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังเบราลุส
.
ผู้นำญี่ปุ่นยังประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือทางมนุษยธรรม 100 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครนเพิ่มเติมจากเงินกู้ 100 ล้านดอลลาร์ที่ให้ไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งจะขยายระยะเวลาวีซ่าให้กับชาวยูเครนที่อยู่ในญี่ปุ่น ที่กำลังเผชิญสงครามในบ้านเกิดของตัวเอง
——————————-