ข่าวประจำวัน » #สั่งแจงงบรายการส่วนพระองค์ ! ธนาธร เปิดหน้าชน ให้ลดงบ อ้างสิ้นเปลือง

#สั่งแจงงบรายการส่วนพระองค์ ! ธนาธร เปิดหน้าชน ให้ลดงบ อ้างสิ้นเปลือง

21 August 2020
1971   0

สยามรัฐ-

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 ส.ค.63 ที่รัฐสภา (เกียกกาย) ในการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นการพิจารณางบประมาณส่วนราชการในพระองค์ โดยมี เจ้าหน้าที่จากสำนักงบประมาณเป็นผู้ชี้แจง ซึ่ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะที่ปรึกษา กมธ. ซึ่งเป็นสัดส่วนพรรคก้าวไกล ร่วมซักถามด้วย ทั้งนี้ ตามปกติในการพิจารณาของที่ประชุมจะมีการถ่ายทอดสดให้ผู้ที่มาชี้แจงคนอื่นๆ ที่อยู่ภายนอกห้องประชุมได้รับชมรับฟังด้วย แต่ในการพิจารณางบประมาณส่วนราชการในพระองค์ กลับมีการตัดเสียงออก ให้เห็นเพียงแต่ภาพผ่านหน้าจอทีวีเท่านั้น โดยเริ่มต้น นายธนาธรได้ข้อให้สำนักงบประมาณช่วยชี้แจงว่า ทำไมงบประมาณส่วนราชการในพระองค์เพิ่มขึ้นในอัตราสูงมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงบฯ ชี้แจงว่า ที่วงเงินเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นงบบุคลากรของหน่วยงานที่รับโอนมาตาม พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ซึ่ง นายธนาธรเห็นต่างในกรณีดังกล่าว

นายธนาธร กล่าวว่า งบที่เพิ่มขึ้นนี้ ตอนแรกตนก็คิดว่างบที่เพิ่มขึ้นมาจากในส่วนนั้น คือแบกรับมาจากกระทรวงกลาโหม ตาม พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ เพราะงบของกองทัพบกเองก็ลดลง แต่พอไปดูเอกสารของกระทรวงกลาโหมก็พบว่ามีการโอนแต่บุคลากร กระทรวงกลาโหมยังถืองบประมาณตรงนี้ไว้อยู่ ปีละประมาณ 1,200 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าตามนี้หมายความว่างบที่เพิ่มขึ้นเกิดจากส่วนราชการในพระองค์เอง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าพระองค์ท่านไม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดงบประมาณ แต่เป็นหน่วยงานนำเสนอขึ้นมาเอง ตนอยากถามผู้บริหารหน่วยงานว่า การนำเสนองบประมาณเพิ่มขึ้นปีละ 16.8 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ประเทศกำลังยากลำบาก เก็บภาษีไม่เข้าเป้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นในอัตราน่าใจหาย ประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับการอยู่บ้านต่อสู้โควิดทำให้รายได้ลดลงต้องอยู่อย่างอยากลำบาก การที่ท่านเพิ่มงบประมาณ 16.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเหมาะสมหรือไม่ การนำเสนองบประมาณเช่นนี้ ทำให้พระองค์ท่านเสื่อมเสียพระเกียรติหรือไม่ ที่มากไปกว่านั้น และเหตุผลที่ตนต้องตั้งคำถามก็คือ งบประมาณส่วนงานในพระองค์เพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจและเพิ่มไม่หยุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายธนาธรได้ขอแสดงสไลด์ต่อที่ประชุม ซึ่งเป็นสไลด์ที่ให้รายละเอียดเปรียบเทียบงบประมาณส่วนราชการในพระองค์แต่ละปีงบประมาณ โดยยึดมาจากเอกสารงบประมาณปี 2561 – 2564 โดย นายธนาธร กล่าวด้วยว่า งบประมาณส่วนราชการในพระองค์เพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจมาก และเพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะปีนี้ปีเดียว เพิ่มขึ้น 16.8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่งบภาพรวมเพิ่มขึ้น 3.1 เปอร์เซ็นต์ และถ้าเทียบจากปีแรกคือ ปี 2561 จนถึงแผนปี 2567 เพิ่มขึ้น 67 เปอร์เซ็นต์ ใน 6 ปี ซึ่งเติบโตเร็วกว่าอัตราเงินเฟือ เติบโตเร็วกว่าจีดีพี เติบโตเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของงบประมาณโดยภาพรวม และที่สำคัญคือมีการเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ ถ้าเราปิดชื่อหน่วยงานเอาไว้ก่อน แล้วมีหน่วยรับงบประมาณหนึ่งนำเสนองบประมาณแบบนี้ให้กับ กมธ.โดยไม่มีคำอธิบาย ตนเชื่อว่า เราคงเห็นว่าไม่เหมาะสมและคงเสนอตัดตามสมควร

“ผมยืนยันว่า พระมหากษัตริย์ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งผมเชื่อว่าพระองค์ท่านไม่ได้ทำงบประมาณ หากแต่เป็นผู้บริหารในส่วนราชการในพระองค์เป็นผู้ทำ การให้งบประมาณหน่วยงานเพิ่มขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้ มีแต่จะทำให้พระองค์เสื่อมเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศและประชาชนย่ำแย่ยากลำบาก ดังนั้น ผมอยากได้รายละเอียด ช่วยชี้แจงรายละเอียดในเอกสาร เพราะผมคิดว่าถ้าเราได้รายละเอียดจะทำให้เราช่วยส่วนราชการในพระองค์พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ช่วยรับรองและชี้แจงต่อสาธารณะได้ว่างบประมาณเหมาะสม หรือมิเช่นนั้น ขอให้ทางหน่วยงานปรับลดลง โดยให้เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 3.1 เท่ากับภาพรวม ถ้าเป็นจำนวนเงินคือเพิ่มขึ้น 243 ล้านบาท จากปีที่แล้ว หรือลดลง 873 ล้านบาทจากงบประมาณ ปี 2564 ที่ขอมา” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ ในสภาวะวิกฤต เมื่อทุกหน่วยงานพยายามตัดลดงบประมาณ เมื่อพี่น้องประชาชนและข้าราชการต่างก็ร่วมมือร่วมใจกันเสียสละ อดทน ต่อสู้ไปด้วยกัน หากส่วนราชการในพระองค์ยอมตัดงบประมาณลง ย่อมทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์สูงเด่นขึ้น เพราะเมื่อประชาชนมองมาก็จะเห็นได้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน และนอกจากนี้ ตนยังกังวลในเรื่องหลักการ การที่ส่วนราชการในพระองค์ไม่ต้องมีเอกสาร ไม่ต้องมาชี้แจงต่อต่อ กมธ. นั้น ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพและความเหมาะสมในการใช้งบประมาณได้ เห็นว่าผิดหลักการในการทำงาน เพราะเงินไม่ว่าจะไปที่หน่วยงานไหนก็มาจากภาษีประชาชน ดังนั้น อยากให้ กมธ. ปรับการทำงาน ให้ส่วนราชการในพระองค์นำเสนอในกระบวนการปกติ เพื่อเงินที่มาจากภาษีประชาชนจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกหน่วยงานได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ในปีต่อๆ ไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการซักถามของธนาธร ทางสำนักงบประมาณได้ชี้แจงด้วยวาจาว่ามีการโอนงบจากกระทรวงกลาโหมไปส่วนราชการในพระองค์จริง และงบประมาณที่เป็นของส่วนราชการในพระองค์เดิมลดลงในปี 2564 ประมาณ 80 ล้าน
นายธนาธร ได้ขอเอกสารชี้แจงงบประมาณของส่วนราชการในพระองค์ไป ซึ่งสำนักงบประมาณบอกว่าที่ผ่านมาไม่มีทำ แต่จะจัดทำให้