เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แอบไปจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ว่า ตนยังไม่ทราบท่านไปจดวันไหน แต่ท่านเองช่วงหลังคุยกันเฉพาะเรื่องคดี เพราะต้องเตรียมเรื่องคดีเนื่องจากศาลรับฟ้องแล้ว ศาลนัดวันที่ 19 มี.ค.นี้ ซึ่งต้องไปขึ้นศาล ส่วนเรื่องพรรคการเมือง นายสุเทพเองเคยปรารภไว้ว่าภารกิจของมวลมหาประชาชนในการต่อสู้บนท้องถนนนี้จบไปแล้ว แต่ภารกิจในการสนับสนุนการปฏิรูปประเทศยังไม่จบ แม้ว่ารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้ริเริ่มแนวทางสำคัญไว้หลายอย่างแต่การปฏิรูปต้องใช้เวลา และท่านคิดว่ามีความคิดที่จะรวบรวมคน ซึ่งมีแนวความคิดตรงกันกับมวลมหาประชาชนนี้ตั้งพรรคการเมือง ซึ่งตนมองว่าเป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านประกาศชัดเจนว่าท่านจะไม่ลงการเมืองแล้ว
นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า ส่วนการรวบรวมคนที่มาสานต่อแนวทางปฏิรูปของมวลมหาประชาชน ตนคิดว่าโดยเงื่อนไขกฎหมาย ไม่ควรจะเกินต้นเดือนมีนาคมนี้ ก็ต้องไปจดทะเบียนเพื่อริเริ่มหาคนที่จะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคและหาสมาชิกพรรค เพราะฉะนั้นความชัดเจนแน่นอนจะต้องอยู่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม
ซึ่งตนมองว่าเรื่องปฏิรูปไม่ใช่เฉพาะแต่พรรคการเมืองเท่านั้นแต่ทุกฝ่ายควรจะมีส่วนร่วมช่วยกันและการเลือกตั้งครั้งหน้า เรื่องเศรษฐกิจปากท้องกับเรื่องการปฏิรูปประเทศต้องเป็น 2 เรื่องหลักที่ทุกพรรคการเมืองต้องตอบคำถามนี้กับประชาชน ส่วนเรื่องคดีความ หลังศาลรับฟ้องก็ไม่รู้สึกบั่นทอนขวัญกำลังใจ ตนว่า “นักรบต้องมีบาดแผล”
แต่ถ้าย้อนกลับไป เราจำเป็นต้องต่อสู้ไหม เราต้องทำ ไม่มีทางเลือก ไม่อย่างนั้นป่านนี้ประเทศจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ และการต่อสู้นั้นมีคนหลายล้านคนร่วมเป็นกำลังสนับสนุน เพราะฉะนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นความภูมิใจในชีวิตของเรา ส่วนเรื่องคดีก็ยังมั่นใจในเรื่องความบริสุทธิ์และยืนยันจะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ขณะที่นายชวน หลีกภัย เองได้กล่าวแสดงความกังวลไว้หลายเรื่อง เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เรื่องราคาสินค้าเกษตรเป็นเรื่องใหญ่ และเห็นว่า 4 ปีกว่ามานี้
คนเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะในภาคใต้ราคาสินค้าเกษตรที่ตกทำให้รายได้ของคนลดลงด้วย ก็กังวลแต่ท่านเองมีความหวังว่าถ้ามีการเลือกตั้งก็น่าจะมีแนวทางในการพัฒนาประเทศที่ดีขึ้นซึ่งตลอดเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ท่านก็พยายามให้คำแนะนำหลายอย่างกับทางรัฐบาล
สำนักข่าววิหคนิวส์