รวมทั้งยังมีผู้ประท้วงอีกจำนวนมาก ได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายที่สถานีตำรวจ การกระทำอันโหดเหี้ยมของตำรวจตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทิ้งรอยแผล และความเจ็บปวดให้ชาวฮ่องกง และขาดความเชื่อมั่นในตัว นางแคร์รี หล่ำ การที่เธอออกมาประกาศถอดร่างกฏหมายในครั้งนี้ ชาวฮ่องกงจึงไม่มีความเชื่อมั่น คนฮ่องกงตระหนักถึงชื่อเสียงด้านลบของนางหล่ำ เมื่อใดก็ตามที่มีสัญญาณว่าทางการต้องการญาติดีกับผู้ชุมนุม ทางการฮ่องกงมักมาพร้อมกับมาตรการต่างๆที่เป็นการละเมิดสิทธิพลเรือน
ขณะนี้ นายหว่อง ได้เดินทางไปไต้หวัน เพื่อหาแนวร่วมสนับสนุนการชุมนุมประท้วงต่อต้านจีน เขากล่าวถึง ปัญหาหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นในฮ่องกงตอนนี้คือ ความโหดร้ายรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และความไร้วี่แววในการเลือกตั้ง ซึ่งผู้ที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลังไม่ใช่นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารพิเศษของฮ่องกง แต่เป็นนายสี จิ้นผิง ผู้นำจีน รัฐบาลฮ่องกงจึงได้เตรียมประกาศเคอร์ฟิว เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงและสลายการชุมนุม ซึ่งพวกเขาจะใช้อำนาจทุกอย่างที่มีเพื่อการนี้ รวมถึงกฎอัยการศึกด้วยเช่นกัน เหมือนกับเหตุการณ์ปราบจลาจลเมื่อปี 2510 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นายหว่อง ย้อนไปถึงการกวาดล้างทางการเมืองครั้งใหญ่ของไต้หวัน นั่นก็คือเหตุการณ์ความน่าสะพรึงกลัวสีขาว ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายทศวรรษก่อน และฮ่องกงอาจจะต้องพบเจอปรากฏการณ์นี้เช่นเดียวกัน เขาจึงต้องการให้พรรคการเมืองไต้หวันออกมายืนเคียงข้างฮ่องกง เพื่อต่อต้านไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ นายหว่องยังเรียกร้องให้ประชาชนชาวไต้หวันออกมารวมตัวกันประท้วง ก่อนวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันชาติจีน เพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างพี่น้องชาวฮ่องกง โดยอ้างว่าผู้สนับสนุนในสหราชอาณาจักร สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลี ก็เตรียมออกมาแสดงพลังด้วยเช่นกัน
Cr.ฐานเศรษฐกิจ
สำนักข่าววิหคนิวส์