วันนี้ทางทีมงานวิหคนิวส์ต้องขอบอกเลยว่า เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ว่าจะมีน้องใหม่อีกรุ่นออกมาพร้อมด้วย!!!! แต่ข่าวลือนั้นเป็นจริงเมื่อทางค่าย Apple ได้ปล่อย iPhone X (เรียกว่า ไอโฟนเท็น) มาเซอร์ไพรซ์แฟนไอโน ด้วยดีไซน์ใหม่หน้าจอไร้ขอบสุดล้ำ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆโดนๆว่าแต่จะมีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆนั้น ตามมาดูกันเลย
หน้าจอไร้ขอบ
วัสดุตัวเครื่องเป็นแบบอลูมิเนียมที่ด้านหลังเป็นกระจก และขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม กล้องคู่แบบแนวตั้ง ด้านหน้าเป็นหน้าจอไร้ขอบ แต่มีรอยบากด้านบนสำหรับวางเซ็นเซอร์และกล้องหน้า
หน้าจอความละเอียด 2436 x 1125 Pixel ทางค่าย Apple เรียกว่า Super Retina Display ความหนาแน่น 458 ppi แน่นอนว่าหน้าจอใช้เทคโนโลยี OLED ที่มีความสว่าง เฉดสีกว้างมีความถูกต้องและแม่นยำสูง รองรับการแสดงวิดีโอแบบ HDR ด้วยมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision
เนื่องจาก iPhone X ไม่มีปุ่มโฮม วิธีเปิดเครื่องก็คือจะต้องแตะที่หน้าจอหนึ่งครั้งแล้วแล้วปัดขึ้นเพื่อเป็นการเปิดเครื่อง
รอยบากบนหน้าจอ iPhone
เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายๆ คนต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษ อาจจะมากกว่าหน้าจอที่ไร้ขอบ คือ ขอบด้านบนที่เหลือลงมาหรือ “รอยบาก” เพราะส่วนที่เกินออกมานี้ทำให้หน้าจอของเครื่องนั้นดูไม่สมมาตรตามความเป็น Apple ที่เน้นความสมมาตรทั้งตัวเครื่อง แต่ส่วนนี้ก็ถือว่าสำคัญเพราะเป็นส่วนที่รวบรวมเซ็นเซอร์ทุกอย่างเอาไว้
สเปกเครื่อง
หลังๆนี้ Apple จัดเต็มกับสเปกของ iPhone ขึ้นทุกปี อย่าง iPhone X นี่ก็เรียกว่าจัดเต็มเช่นเดียวกันกับซีพียู Apple A11 ตัวเดียวกับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus แต่สำหรับ iPhone X นั้น Apple A11 มีบทบาทสำคัญในการช่วยวิเคราะห์ใบหน้าในระบบ Face ID ด้วยเนื่องจากมีระบบที่ Apple เรียกว่า bionic engine มาช่วยเหลือนั่นเอง ว้าว
ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า Face ID
ตามที่นักพัฒนาได้เผยแพร่ข้อมูลมาก่อนหน้านี้ Apple ได้เปิดตัวระบบรักษาความปลอดภัยแบบใหม่คือ ระบบจดจำใบหน้าหรือ Face ID นั่นเองงงงงงงงงง
Face ID เป็นระบบจดจำใบหน้าที่มาแทนที่ Touch ID บน iPhone X ซึ่งลักษณะการทำงานนั้นจะอาศัยเซ็นเซอร์หลายตัวบนรอยบากด้านบน โดยอาศัยเทคโนโลยี IR system,flood illuminator และกล้องหน้าช่วยให้การสแกนใบหน้าทำได้ดีในที่มืดอีกด้วย โดยการเปิดใช้งานนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ยกเครื่องขึ้นมา เปิดเครื่อง-มองเครื่องก็พร้อมใช้งานทันที ไม่ได้ใช้เวลานานอะไรมากมาย ซึ่ง Apple ระบุว่า Face ID มีความปลอดภัยสูงมาก มีโอกาสพลาด 1 ใน 1,000,000 ในขณะที่ Touch ID มีโอกาสพลาด 1 ใน 50,000 แน่นอนว่า Face ID ถูกใช้งานร่วมกับ Apple Pay แทน Touch ID ด้วยเช่นเดียวกันแน่นอน
นอกจากนี้ Face ID กล้องหน้าของ iPhone 8 ยังสามารถใช้ทำ Animoji หรืออีโมจิที่เคลื่อนไวและแสดงความรู้สึกเหมือนใบหน้าเราได้อีกด้วย ถือว่าเป็นลูกเล่นที่ครีเอทีฟและน่ารักมากๆ อีกอย่าง
กล้องคู่จัดเต็ม
iPhone X มาพร้อมกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีกันสั่นทั้งสองเลนส์ กล้องหลักมีรูรับแสงขนาด f/1.8 และกล้องรองมีรูรับแสงขนาด f/2.4 ระหว่างกล้องคู่มีแฟลช Quad-LED แบบ True Tone ในส่วนของ AR นั่นก็เหมือนกับที่ใช้ใน iPhone 8 Plus
มาพร้อมระบบชาร์จไร้สาย
ค่าย iPhone X มาพร้อมกับระบบชาร์จไร้สายหรือ Wireless Charge ตามมาตรฐาน Qi แต่ยังต้องอาศัยแท่นชาร์จอยู่เหมือนเดิมและเป็นไปตามคาดคือแท่นชาร์จไร้สายก็ไม่มีแถมมา แต่ Apple ได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ในการช่วยจำหน่ายแท่นชาร์จเพิ่มเติมให้ด้วย ซึ่ง Apple เรียกการชาร์จไร้สายนี้ว่า AirPower
ราคาและวันวางจำหน่าย iPhone X
iPhone X มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว โดยมีความจุ ได้แก่ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้น $999 หรือประมาณ 33,000 บาท และรุ่น 256GB อยู่ที่ $1,149 หรือประมาณ 38,000 บาท เปิดพรีออเดอร์วันที่ 27 ตุลาคม วางจำหน่าย 3 พฤศจิกายนนี้
https://www.youtube.com/watch?v=K4wEI5zhHB0