เชียงใหม่ – เจ้าของร้านและผู้ประกอบการสุดเซ็ง “พรอมเมนาดา” ศูนย์การค้าดังเชียงใหม่มูลค่ากว่า 2,900 ล้านบาท ประกาศปิดบริการกะทันหันและตัดกระแสไฟฟ้า โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้จำเป็นต้องขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนเป็นพัลวัน พบบางรายขาดทุนอย่างไม่ทันรู้ตัวเพราะเตรียมของสดไว้ขาย เผยพยายามโทรศัพท์หาผู้บริหารเพื่อขอคำชี้แจงที่ชัดเจนแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อศูนย์การค้าแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหวจริงๆ หลังมีข้อมูลว่าติดค้างชำระค่าไฟฟ้ากว่า 17 ล้านบาท แถมเดือนล่าสุดอีก 5 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (5 พ.ค. 65) ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าชื่อดังย่านตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศปิดศูนย์การค้าแห่งนี้เป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด ให้เหตุผลว่าแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่อไปไม่ไหว เนื่องจากเผชิญวิกฤตจากสถานการณ์โควิด-19และแบกรับภาระมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยทางศูนย์การค้าแจ้งหนังสือให้ผู้ประกอบการและร้านค้าในศูนย์การค้าทราบอย่างกะทันหันในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ พร้อมให้ร้านค้าทำการขนย้ายอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ และสินค้า โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นอาหารสดออก ภายในวันนี้ โดยให้คงเหลือไว้ได้บางส่วนในส่วนที่สามารถเก็บได้หรือไม่เน่าเสีย และทำการตัดกระแสไฟฟ้าของร้านค้าส่วนใหญ่ ซึ่งสร้างความแตกตื่นและความวุ่นวายให้แก่บรรดาผู้ประกอบการและเจ้าของร้านค้า รวมลูกจ้างและพนักงานของร้านค้าต่างๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการแจ้งอย่างกะทันหันที่ไม่ได้มีการบอกกล่าวให้ทราบล่วงหน้า และทำให้ต้องรีบทำการขนย้ายข้าวของออกกันเป็นพัลวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาบรรดาผู้ประกอบการและเจ้าของร้านค้าภายในศูนย์การค้าพรอมเมนาดา ที่มีนับร้อยร้าน ต่างต้องปิดให้บริการโดยที่ไม่มีโอกาสแจ้งให้ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า พร้อมกับต้องให้พนักงานและลูกจ้างช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ออกจากพื้นที่ศูนย์การค้า ตามที่ได้รับแจ้งจากทางศูนย์การค้า ซึ่งส่วนใหญ่ต่างรู้สึกตกใจที่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ แม้ว่าจะพอทราบสถานการณ์ของศูนย์การค้ามาตลอดว่าประสบปัญหาขาดทุน เช่นเดียวกันกับร้านค้าส่วนใหญ่ที่เปิดให้บริการอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดมาก่อนว่าทางศูนย์การค้าจะประกาศปิดอย่างกะทันหันเช่นนี้ โดยที่ไม่มีการบอกกล่าวให้ทราบล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เตรียมตัวเลย ทำให้เจ้าของร้านค้าหลายรายได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะเป็นร้านขายอาหารที่ต้องมีการเตรียมวัตถุดิบเป็นอาหารสดไว้และต้องลงทุนวันละเป็นหมื่น ทำให้ต้องขาดทุนไปโดยปริยาย
ขณะที่แหล่งข่าวเจ้าของร้านรายหนึ่งในศูนย์การค้าแห่งนี้ดปิดเผยว่า ทางศูนย์การค้าฯ ให้พนักงานของศูนย์การค้าแจ้งผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ช่วงเช้าวันนี้ (5 พ.ค. 65) ว่าทางศูนย์การค้าจะปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 65 เป็นต้นไป ไม่มีกำหนด โดยให้ทำการย้ายข้าวของในส่วนที่เป็นของสดหรือต้องเก็บรักษาในตู้เย็นออกไปจากพื้นที่ เนื่องจากทางศูนย์การค้าจะทำการตัดกระแสไฟฟ้าตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ยังให้แต่ละร้านสามารถเก็บสินค้าและข้าวของบางส่วนไว้ได้ เนื่องจากเป็นการปิดบริการช่วยคราว แม้จะไม่มีกำหนด ทั้งนี้ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาผู้บริหารของศูนย์การค้า ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ และคนไทย เพื่อหวังจะขอทราบเหตุผลและคำชี้แจงที่ชัดเจนมากกว่าหนังสือที่มีการแจ้งให้ทราบผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะเดียวกันได้พยายามสอบถามไปที่ผู้ประสานงานที่เป็นพนักงานของศูนย์การค้าก็ไม่สามารถให้คำชี้แจงใดๆ ได้มากกว่านั้น
นอกจากนี้แหล่งข่าวรายเดียวกันนี้แสดงความเห็นว่า ตามข้อมูลที่ทราบและประสบการณ์ส่วนตัว ทางศูนย์การค้าประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 เพราะต้องยอมรับว่าศูนย์การค้าแห่งนี้มีผู้ใช้บริการค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ในเชียงใหม่ ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขึ้นตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงยิ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและขาดทุนมากขึ้น ซึ่งร้านค้าแต่ละร้านในศูนย์การค้าแห่งนี้ส่วนใหญ่ก็ต่างมีสภาพไม่ต่างกัน มีเพียงบางร้านเท่านั้นที่สามารถอยู่ได้อย่างสบาย ทั้งนี้ปัจจัยและเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ทางศูนย์การค้าตัดสินใจประกาศปิดบริการในครั้งนี้นั้น เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาการติดค้างชำระค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ติดค้างอยู่เดิมประมาณ 17 ล้านบาท และเดือนล่าสุดอีกประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีการยื่นคำขาดขอให้ชำระอย่างน้อยเป็นค่าไฟฟ้าของเดือนล่าสุด แต่ทางศูนย์การค้าไม่สามารถทำได้ และประกาศปิดบริการศูนย์การค้า
สำหรับศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ นั้นเป็นศูนย์การค้าสไตล์รีสอร์ตมอลล์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 58 ไร่ บริเวณถนนวงแหวนรอบ 2 แยกดอนจั่น ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยลงทุนและบริหารโครงการโดยอีซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลเอสเตท ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้เงินลงทุนกว่า 2,900 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 56 โดยในช่วงแรกถือเป็นศูนย์การค้าที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คนเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอย่างมาก ทั้งในแง่ความหรูหราและสถาปัตยกรรมแปลกใหม่ของสถานที่ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมมร้านค้า บริการและความบันเทิงต่างๆ ครบครัน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของร้านดังอย่าง “ยูนิโคล่” (UNIQLO) แห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ทำให้ในช่วงแรกของการเปิดมีผู้เข้าใช้บริการอย่างล้นหลาม แต่เมื่อผ่านไปกลับค่อยๆ เริ่มคลายความนิยมลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับที่ร้านดังต่างทยอยปิดตัวลงในเวลาไม่นาน ซึ่งรวมทั้ง “ยูนิโคล่” (UNIQLO) ด้วย กระทั่งกลายสภาพเป็นศูนย์การค้าที่ค่อนข้างเงียบเหงาและมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะตัว