6 พ.ค.2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (6 พ.ค.65) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ออกแถลงการณ์พรรคร่วมฝ่ายค้าน “ขีดเส้นใต้ความล้มเหลว ขีดเส้นตายรัฐบาลที่สิ้นสภาพ” โดยระบุว่า เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ 22 พ.ค.นี้ ในการดำเนินการของพรรคร่วมฝ่ายค้านใน 4 วาระสำคัญ ได้แก่ 1. การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.65, 2. การพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในเดือนมิ.ย.65, 3. การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151 และ 4. การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมกันแล้วไม่เกิน 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเดือน ส.ค.65
วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านอันประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย มารวมตัว ณ ที่แห่งนี้ ในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของการเมืองไทย เวลาที่สำคัญยิ่งสำหรับประเทศไทย
ประเทศไทยวันนี้เรากำลังอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด เผชิญวิกฤตในทุกมิติ “วิกฤตตัวผู้นำ” นายกรัฐมนตรีที่ไร้ศักยภาพ ขาดความน่าเชื่อถือ นำพาประเทศมาถึงทางตัน เป็นรัฐบาล “หมดสภาพ” ในการบริหารราชการแผ่นดิน อีกทั้งยังจะ “สิ้นสภาพ” ในมิติความถูกต้องตามตัวบทกฎหมายด้วยปมวาระนายกรัฐมนตรี 8 ปี “วิกฤตเศรษฐกิจ” ที่สร้างความทุกข์ยากแก่พี่น้องประชาชนอย่างแสนสาหัส ทำลายสถิติการเพิ่มขึ้นของคนจน หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน การตกงาน การขาดดุลงบประมาณ สูงสุดในประวัติศาสตร์ชาติภายใต้การบริหารของรัฐบาล “วิกฤตสาธารณสุข”
ที่คร่าชีวิตประชาชนต้องนอนตายกลางถนนเป็นจำนวนมาก กลายเป็นประเทศที่ติดเชื้อลำดับต้นๆ ของโลก สาเหตุจากการบริหารและมาตรการที่ผิดพลาด ควบคุมโรคระบาดแบบไร้ทิศทาง
กระทำเสมือนชีวิตของประชาชนนั้นไร้ค่า ไร้ความหมาย “วิกฤตการเมือง” เผด็จการในคราบประชาธิปไตย ได้สร้างประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายทิ้งไว้ให้ประเทศอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับ “วางยาพิษ” รวมถึงระบบนิติบัญญัติของเสียงข้างมากที่ล้มเหลว สภาอันทรงเกียรติกลายเป็นสภาที่ซื้อได้ด้วยเงิน
“วิกฤตผู้นำ วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสาธารณสุข วิกฤตการเมือง” ทั้ง 4 วิกฤตที่ปะทุขึ้นพร้อมกันในปัจจุบัน เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ และนำความทุกข์ยากมาสู่ประชาชนอย่างมากมายมหาศาล
พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันว่า หากปล่อยให้สถานการณ์เหล่านี้ดำเนินต่อไป จะสร้างความเสียหายจนไม่อาจเยียวยาแก้ไขได้
พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีมติร่วมกัน “ขีดเส้นตาย” ให้รัฐบาลที่ “หมดสิ้นสภาพ” นี้ นับตั้งแต่การเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ 22 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ในการดำเนินการของพรรคร่วมฝ่ายค้านใน 4 วาระสำคัญ ได้แก่
1. การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2565
2. การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในเดือนมิถุนายน 2565
3. การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151
4. การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมกันแล้วไม่เกิน 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเดือนสิงหาคม 2565
พรรคร่วมฝ่ายค้านขอประกาศว่า…
วันนี้ เรารวมพลังเพื่อยุติ “รัฐบาลที่สิ้นสภาพ” โดยการ “ขีดเส้นตาย” การทำงานของรัฐบาลนี้ ทำหน้าที่ได้ไม่เกินเดือนสิงหาคมที่จะถึง
พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า… “ถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนอำนาจ คืนชีวิต คืนความกินดีอยู่ดี คืนประชาธิปไตย ให้กับประชาชนทุกคน”
พรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
6 พฤษภาคม 2565