.
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ลงนามในร่างกฎหมายกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี ฐานปล่อยข่าวปลอมเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย ขณะที่รัสเซียกำลังเดินหน้าบุกยูเครน
.
ร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้ (4 มีนาคม) กำหนดโทษจำคุกตามระยะเวลาและค่าปรับต่างๆ ต่อผู้ที่เผยแพร่ ‘ข้อมูลที่เป็นเท็จอย่างจงใจ’ เกี่ยวกับกองทัพ โดยจะมีบทลงโทษที่รุนแรงกว่าหากการเผยแพร่ถูกมองว่าส่งผลกระทบร้ายแรง
.
ปูตินยังได้ลงนามในร่างกฎหมายที่จะอนุญาตให้มีการปรับหรือโทษจำคุกสูงสุดสามปีสำหรับการเรียกร้องให้คว่ำบาตรรัสเซีย ทั้งนี้ รัสเซียเผชิญกับบทลงโทษทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจากชาติตะวันตกจากการบุกยูเครน
.
หน่วยเฝ้าระวังสื่อของรัสเซียกล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียได้จำกัดการเข้าถึง BBC และเว็บไซต์สื่ออิสระอื่นๆ และบล็อก Facebook โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ การผ่านร่างกฎหมายนี้ยังตามมาด้วยการที่สำนักข่าว Bloomberg ประกาศวานนี้ว่ากำลังระงับการทำงานของนักข่าวในรัสเซีย และ CNN กล่าวว่าจะหยุดออกอากาศในประเทศ
.
“เราเสียใจอย่างยิ่งที่ตัดสินใจระงับการรวบรวมข่าวของเราในรัสเซียชั่วคราว” Bloomberg อ้างคำกล่าวของ จอห์น มิกเคิลธเวต บรรณาธิการใหญ่ของสำนักข่าว และระบุว่าการเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าวเป็นสาเหตุของการประกาศนี้
.
ขณะที่ CNN ระบุว่า “จะหยุดออกอากาศในรัสเซีย ขณะที่เรายังคงประเมินสถานการณ์และก้าวต่อไปของเรา”
.
ด้าน BBC ของอังกฤษประกาศวานนี้เช่นกันว่าจะหยุดการทำงานของนักข่าวในรัสเซีย และ Canadian Broadcasting Corporation (CBC) ของแคนาดาก็ระบุว่าได้ระงับการรายงานข่าวจากรัสเซียชั่วคราว
.
“กฎหมายนี้ดูเหมือนจะทำให้กระบวนการสื่อสารมวลชนอิสระเป็นอาชญากรรม” ทิม เดวี ผู้อำนวยการทั่วไปของ BBC กล่าวในแถลงการณ์
.
เขาเตือนว่านักข่าวอาจเผชิญกับ “ความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีอาญาเพียงเพราะการทำงานของพวกเขา”
.
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์การบุกยูเครนก่อนหน้านี้ AFP รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้ง Facebook, TikTok ได้จำกัดการเข้าถึงสำนักข่าวที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายรัฐของรัสเซียในสหภาพยุโรป (EU) ส่วน Microsoft ก็บอกว่ากำลังถอดแอปพลิเคชัน RT ออกจาก App Store ของทางบริษัท และจะเปลี่ยนอัลกอริทึมในบริการค้นหาอย่าง Bing ให้นำเนื้อหาของสื่อรัสเซียอย่าง RT และ Sputnik อยู่ลำดับต่ำลงในผลการค้นหา ขณะที่ YouTube ก็บล็อกช่องยูทูบของ RT และ Sputnik ในยุโรปไปแล้ว ซึ่งสำนักข่าวเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าผลักดันข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับการบุกยูเครน
.
ส่วน EU ก็ประกาศแบนการออกอากาศของทั้ง RT และ Sputnik ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (26 กุมภาพันธ์) เช่นกัน หรืออย่างหน่วยงานกำกับดูแลในเยอรมนีก็มีการประกาศแบนสถานีโทรทัศน์ RT ภาคภาษาเยอรมัน เป็นต้น นำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้จากฝั่ง RT ในประเทศต่างๆ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเป็นการเซ็นเซอร์ ซึ่งรัสเซียยังตอบโต้การแบนช่อง RT ภาคภาษาเยอรมันดังกล่าว โดยระบุว่าจะปิดสำนักงานของสถานีโทรทัศน์ Deutsche Welle (DW) ของเยอรมนี และเพิกถอนการรับรองพนักงานของ DW ในรัสเซีย เป็นต้น
.
