กลายเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักสำหรับกรณีนักร้องดัง “โจอี้ บาซู” หรือ โจอี้ ศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมอุปกรณ์เสพยาไอซ์ ที่ห้องพักย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นักร้องดัง เคยได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของตนเอง ระบุว่า ตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีลูกสาวแท้ๆ 1 คน อายุ 19 ปี และลูกบุญธรรมที่ตนอุปการะอีก 4 คน
โจอี้ เปิดเผยว่า สาเหตุที่อุปการะเด็กถึง 4 คน ว่า “มันเริ่มจากความเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน เรารู้จักกัน แล้วบางทีน้องๆ ที่เค้ามีปัญหาครอบครัว เราไม่รู้จะช่วยยังไง เลยช่วยได้เท่านี้ ผมไปเซ็นเป็นพ่อ อุ้มออกมาจากโรงพยาบาลเลย ถูกต้องตามกฎหมาย” ส่วนลูกสาวตัวเองนั้น “ผมมีก่อนเป็นบาซูอีก จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่เคยปิด แต่ไม่มีใครเคยถามเลย เพราะไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันตลอด แฟนคลับที่สนิทก็รู้ ถามว่าหวงลูกสาวมั้ย ก็หวงในสิ่งที่อยู่ในกรอบ ถ้านอกกรอบเราก็จะสอนให้เค้ารู้วิธีว่าเค้าจะรับผิดชอบยังไง”
เมื่อถามว่า ลูกสาวว่าอย่างไรบ้าง ที่ไปอุปการะเด็กถึง 4 คน โจอี้กล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือเราสอนเค้าตั้งแต่เด็ก ในเรื่องที่ควรจะมี นั่นก็คือจิตสำนึกที่ดีที่ควรจะมี ถ้าคุณมีในส่วนนี้คุณจะลืมเรื่องที่เป็นลบทั้งหมด ผมไม่อยากให้เค้ามาเป็นเหมือนเรา เราอาจจะมีปมเล็กๆ ในวัยเด็ก อาจจะเป็นเรื่องผิว เรื่องความกำพร้า ถามว่าคิดจะตามหาพ่อมั้ย มันไม่มีผล เพราะการตามหามันมีแค่ 2 คำ ซึ่งถ้าเป็นวัฒนธรรมไทย เราไม่มีตรงนี้ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ เค้าจะถามกลับมาเลยว่า So What? แล้วยังไง เจอแล้วทำยังไงเหรอ?”
ทั้งนี้ โจอี้สูญเสียภรรยาไปเมื่อปี 2559 โดยโจอี้ ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เป็นโรคประจำตัว โรคหัวใจครับ ความจริงเค้าเป็นมานานแล้ว เราทำบริษัทที่เกี่ยวกับอาหารเสริม คอสเมติก ทำสบู่ แล้วแฟนผมเป็นคนดูแล การที่เราทำพวกโรงงานหรือผลิตแบบนี้ มันจะต้องมีการเทสสินค้า ลูกค้ามีเป็นร้อยเจ้า แฟนผมเค้าจะเป็นคนที่ลองเทสต์เอง ที่จริงเรามีฝ่ายเทสต์ ฝ่ายดูแล แต่ด้วยความที่เค้าจะต้องเอารายละเอียดไปคุยกับลูกค้า เค้าจะต้องเป็นคนเทสเอง เราจะพลาดไม่ได้เลย”
Cr.ดาว.news
สำนักข่าววิหคนิวส์