4 พ.ย.2565 – นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากวันที่ 30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ปรากฎภาพข่าวจากสื่อต่างประเทศและโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากรอเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางที่ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น
จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีการให้บริการจากสายการบิน จำนวน 76 เที่ยวบิน เฉลี่ยมีผู้ใช้บริหารชั่วโมงละ 3,000-4,000 คน คิดเป็น 40,000 – 50,000 คน/วัน ส่วนตัวมีความเห็นดังนี้
1.ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยวไทย ที่จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น
2.รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่มีการเตรียมแผนรองรับตั้งแต่แรก ทั้งที่รัฐบาลเองคาดหวังจะฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น การดำเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้าในแต่ละขั้นตอน คนแน่นล้นแออัด จนนักท่องเที่ยวต้องโวยวายจนออกสื่อ จนสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวไทย
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทย ถือว่าเป็นห้องรับแขกห้องแรกของประเทศที่ไว้คอยต้อนรับและสร้างความประทับใจแรกในการมาเยือน เคยติดอันดับที่ 5 ในปี พ.ศ. 2558 ในฐานะสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ในหมวดสนามบินที่ให้บริการผู้โดยสาร 40-50 ล้านคนต่อปี จากการจัดอันดับและมอบรางวัลของ สกายแทร็กซ์ (Skytrax) หากไม่รีบแก้ไข อันดับสนามบินที่ดีของสุวรรณภูมิอาจจะร่วงกว่านี้ไปอีกแน่นอน
นายจักรพล กล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวแบบล้างแค้น (Revenge Tourism) กำลังกลับมา หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะให้ความสำคัญกับการรับนักท่องเที่ยว ดังนี้
1.เพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางที่ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 2 เท่า ให้เป็น 150 ช่อง ในช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นโดยวิเคราะห์จากข้อมูลการเข้าประเทศย้อนหลัง ควรระบายผู้โดยสารเฉลี่ย 8,000 คนต่อชั่วโมงให้ได้
2.จัดการทั้งบุคลากรและสถานที่ขณะรอการตรวจให้ปลอดโปร่ง ถูกต้องตามมาตรการสาธารณสุข ไม่หนาแน่นจนเกินไปในระยะเวลาดังกล่าว และใช้ระบบเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกในแต่ละขั้นตอน
3.ประสานทางผู้ประกอบการอากาศยานในการดำเนินความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น ลดขั้นตอนความยุ่งยาก ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงวิธีการตรวจหนังสือจนไปถึงอำนวยความสะดวกตลอดระยะเวลารอการตรวจหนังสือเข้าเมือง
“ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่พรรคเพื่อไทยจะทำ หากได้เป็นรัฐบาล เราจะไม่ปล่อยให้ปัญหานี้เรื้อรัง ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิคือประตูและหน้าบ้านของประเทศไทย เราต้องทำให้หน้าบ้านของเราสวยงามที่สุดเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทยในการกลับมาเป็นประเทศมหาอำนาจด้านการท่องเที่ยวอีกครั้ง”