การติดตามตัว “อดีตพระพรหมเมธี” หรือพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงิน คดีทุจริตเงินทอนวัด ที่อยู่ระหว่างหลบหนี และต่อมาถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ประเทศเยอรมนี คุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต หลังไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานของพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอดีตพระพรหมเมธี เมื่อเดินทางถึงประเทศเยอรมนี ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัย ไปยังสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีแล้ว
มีรายงานว่า ในการวางแผนขอยื่นลี้ภัยในเยอรมนีของอดีตพระพรหมเมธีครั้งนี้ ยังมี “พระ ด.” ซึ่งเป็นพระไทยในสหรัฐอเมริกา ที่มีความสนิทสนมส่วนตัวกับสามีของ “สีกา จ.” ที่เป็นคนไทย และทำสัมปทานเหมืองแร่ทองคำอยู่แขวงสาละวัน ทางภาคใต้ของ สปป.ลาว เป็นผู้ติดต่อประสานงานให้ ซึ่งโดยส่วนตัวทางอดีตพระพรหมเมธี มีฐานะทางการเงินค่อนข้างดี จึงไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โดยเมื่อไปถึงเยอรมนี ทางอดีตพระพรหมเมธี ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยกับ ตม.เยอรมนี ทันที โดยเวลานี้อยู่ในขั้นตอนการสัมภาษณ์ สอบประวัติ และซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ยื่นคำขอลี้ภัย อย่างไรก็ตาม หากทางการเยอรมนี ยังไม่ให้อดีตพระพรหมเมธีลี้ภัย ก็จะยังมีเวลาที่จะอุทธรณ์ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกถึง 2 เดือน
มีรายงานด้วยว่า คณะของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เดินทางไปประสานเพื่อรับตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น ถูกทางการเยอรมนีกันไม่ให้พบเจอตัวอดีตพระพรหมเมธี เนื่องจากเหตุผลเพื่อคุ้มครองสิทธิและเพื่อความปลอดภัยของผู้ยื่นคำขอลี้ภัย เพราะได้ยื่นคำขอลี้ภัยแล้ว ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองตามกฎเกณฑ์ว่าด้วยผู้ลี้ภัยทันที จึงทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้ตัวอดีตพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่ โดยคณะของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีกำหนดกลับประเทศไทย ในเช้าวันที่ 6 มิถุนายนนี้.
สำนักข่าววิหคนิวส์