สภาอับปางสู่ ส.ส.ต้องเข้าคุก
แม้วเดินเกมบีบให้ยุบสภาสั่งให้นับองค์ประชุม เจตนาให้สภาล่ม ไม่ยอมขานชื่อทั้งที่นั้งอยู่ในสภา เพื่อหวังยุบสภาให้ลูกมาเป็นนายกฯ พวก ส.ส.ก็ทำตามคำสั่ง อ้างเจตนาต่อต้านเผด็จการ จนสภาล่ม 16 ครั้ง เพราะรธน.กำหนดให้เป็นธุรกิจการเมือง นักการเมืองจึงเป็นเพียงลูกจ้างของผู้บงการ
พวกเขาคงจะลืมไปกระมังว่า คนจ่ายเงินเดือน ส.ส.มาจากภาษีประชาชน การกระทำดั่งกล่าว ยังเข้าข่ายการกระทำความผิด ตามมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปีหรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ประชาชนผู้เสียภาษีสามารถฟ้องตรงได้ที่ศาลอาญาทุจริต ซึ่งศาลจะทำในกระบวนการไต่สวน ค้นหาหลักฐาน
ทำให้ ส.ส.ที่เจตนากระทำดังกล่าว ยังจะถูกตัดสิทธทางการเมือง ตลอดชีวิต ล่าสุดอัยการสูงสุดเพิ่งสั่งดำเนินคดีอาญา กับ 3 ส.ส. ที่เสียบบัตรแทน หลังศาลรธน.ชี้ขาด
มิใช่กรณีแรกที่ ผู้ดำรงค์ตำแหน่งทางการเมือง ส.ส. รัฐมนตรี ลูกน้องแม้วถูกดำเนินคดี ติดคุก ติดตาราง ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ถูกยึดทรัพย์ ล่าสุดธาริต บุญทรง ฯลฯ
หากพิจารณาใช้ กลยุทธ์ “ย้อนรอยหมา” ไม่ต้องเสียเวลายุบพรรค ยุบสภา ลาออก ปรับครม. ต้อนควายเข้าคอกให้เสียเวลา แค่ ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ควายก็จะดิ้นรนเอาตัวรอด วิ่งเข้าคอกเองหวังอยู่รอด
“ มองการเมืองต้องมองให้ลึกกว่าตาเนื้อ เพราะการเมืองนั้นสลับซับซ้อน ยอกย้อนกลอุบาย โดยยึดผลประโยชน์เป็นสำคัญ “
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
5 กุมภาพันธ์ 2565