.
สำนักข่าว Reuters รายงานภาพรวมสถานการณ์ของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ พบว่า หดตัวแรงสุดในรอบ 74 ปี เหตุเพราะไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ชาวอเมริกันทั่วประเทศลดการใช้จ่ายในครัวเรือน ขณะที่การลงทุนภาคธุรกิจก็ลดฮวบหนัก ส่งผลให้ชาวอเมริกันนับล้านต้องตกงานและเข้าสู่ภาวะยากจนข้นแค้น
.
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังเผยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของสหรัฐฯ ทั้งปี 2020 ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัว 3.5% เมื่อปีก่อน นับเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1946
.
โดยเกือบทุกภาคส่วน ยกเว้นภาครัฐและตลาดอสังหาริมทรัพย์ล้วนหดตัวลงในปีที่แล้ว โดยเฉพาะการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีที่แล้วลดลง 3.9% นับเป็นการหดตัวที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1932
.
รายงานระบุอีกว่า หลังจากโควิด-19 ระบาดในสหรัฐฯ เมื่อต้นปีที่แล้ว เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ก่อนที่ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวที่ 0.4% จากงบประมาณช่วยเหลือผลกระทบจากโควิด-19 ที่พอกระตุ้นการใช้จ่ายในโค้งสุดท้ายของรัฐบาล
.
ในส่วนของทิศทางภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ นักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวได้ช้าในไตรมาสแรกของปี 2021 นี้
.
ด้าน Brian Deese ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด แสดงให้เห็นความเร่งด่วนที่สภาคองเกรสจำเป็นต้องผ่านร่างพิจารณาแผนช่วยเหลือผลกระทบจากโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศรอบใหม่ได้
.
รายงานยังระบุว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 ระบาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังพบการฟื้นตัวในรูปแบบ K-shaped Recovery กล่าวคือ แรงงานรายได้สูงจะฟื้นตัวจากวิกฤตนี้ได้ ขณะที่แรงงานรายได้น้อยกลับฟุบหนัก
.
นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่า ภาคบริการได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยผู้ที่มีรายได้น้อย สตรี และชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 รุนแรงที่สุด ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รองรับการทำงานจากบ้านและการเรียนออนไลน์ เติบโตในระดับ 11.9% เมื่อปีที่แล้ว
.