ตำรวจพัทยานัด “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดิศร เพียงเกษ เหวง โตจิราการ วีระกานต์ มุสิกพงศ์” แกนนำ นปช.เข้าพบเพื่อนำตัวส่งอัยการพร้อมสำนวนฟ้องคดีพากลุ่มมวลชนยกขบวนไปปิดล้อมโรงแรมรอยัลคลิฟบีชฯ และล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ปี 52 โดยอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ 16 ธ.ค.ปีนี้
Mgr online รายงานว่า 4 แกนนำ นปช.ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอดิศร เพียงเกษ นายแพทย์เหวง โตจิราการ และนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ เดินทางเข้าพบอัยการจังหวัดพัทยาเพื่อรายงานตัว หลังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา นำส่งสำนวนคดีสั่งฟ้องกรณีพากลุ่มมวลชนยกขบวนไปปิดล้อม และล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือ “อาเซียนซัมมิท” ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อเดือนเมษายน 2552 เพื่อส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาให้พนักงานอัยการ โดยมี นางธิดา ถาวรเศรษฐ พร้อมแกนนำ นปช. ทนายความ และกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาที่อัยการจังหวัดพัทยาในวันนี้ ด้วยพนักงานสอบสวนนัดผู้ถูกกล่าวหาทุกคนมาพบเพื่อนำตัวส่งเจ้าพนักงานอัยการ ซึ่งการดำเนินการถือว่าครบถ้วนตามกระบวนการ โดยพนักงานอัยการได้รับสำนวน และกำหนดนัดหมายผู้ถูกกล่าวหามาพบอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม 2560 เพื่อรับฟังความเห็นของอัยการว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่ แต่ในระหว่างรอความเห็นจากอัยการ ทางกลุ่มก็จะทำหนังสือยื่นขอความเป็นธรรม ตลอดจนแสดงข้อมูลหลักฐานข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอัยการไปเลย
นายณัฐวุฒิ อ้างว่า ทางกลุ่มได้เคลื่อนไหว และต่อสู้ทางการเมืองโดยยึดหลักสันติวิธีมาโดยตลอด ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่กระทำไปจึงอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ ทั้งทางกฎหมาย และทางการเมือง ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาในปี 2552 เป็นสิ่งที่เป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีข้อกังวลใดๆ ในการต่อสู้คดี
ขณะที่ นายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ขอนแก่น กล่าว่า สำหรับการดำเนินคดีดังกล่าวตัวเองไม่รู้ตัวมาก่อน ทราบเพียงแต่ว่า พนักงานอัยการเคยมีคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ดูเหมือนว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้เหมือนจะเร่งรัดในสิ่งที่มีคดีทุกเรื่องของฝ่ายเสื้อแดง ทั้งที่ตัวเองกับหลายคนในครั้งนั้นไม่ได้เดินทางมายังเมืองพัทยาเลย จึงไม่ทราบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ใช้ประมวลกฎหมายเล่มเดียวกับที่เรียนมาหรือไม่ ซึ่งหากทราบภายหลังว่ามีการตั้งข้อหากลั่นแกล้ง ก็มีความจำเป็นที่จะมีการฟ้องกลับตามกระบวนการพิจารณาของกฎหมายไทยต่อไป โดยจะไม่ยอมให้ความอยุติธรรมเกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนั้นเป็นไปด้วยความสุจริต และการกระทำที่ห่างกันเกือบ 400 กิโลเมตรนั้นจะเป็นผู้สนับสนุนหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าความบริสุทธิ์ยุติธรรมต้องเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต นั่นคือ การดำเนินการฟ้องกลับแจ้งกลับทันทีนับแต่วันนี้ไป
ขณะที่ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และนัดผู้ต้องหามาแล้วส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการจังหวัด โดยวันนี้มีผู้ต้องหามาเพียง 4 คน จาก 7 คน ขาดในส่วนของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่ป่วย และได้ให้ใบรับรองแพทย์มาแล้ว ซึ่งจะมีการแยกสำนวนการสอบสวนออกไปอีกสำนวนหนึ่งส่งภายหลัง
ขณะที่ในส่วนของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้น มีหมายขังแนบมาด้วย รวมถึง นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ขณะนี้อยู่ในการหลบหนี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นการดำเนินการส่งสำนวน และตัวผู้ต้องหาให้อัยการพิจารณาในชั้นอัยการต่อไป เบื้องต้น ถือว่าเสร็จสิ้นในกระบวนการ ยกเว้นว่าอัยการสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่เท่านั้น ส่วนอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่นั้นคงพิจารณาจากสำนวนที่พนักงานสอบสวนยื่นให้ โดยอัยการนัดผู้ต้องหาอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ทั้งนี้ ไม่หนักใจหากทางกลุ่มจะมีการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานตามความเป็นจริง จึงไม่หนักใจต่อการดำเนินการ
สำนักข่าววิหคนิวส์