‘
หมอวรงค์’ท้าดีเบต’ไพบูลย์’
ถกแก้รธน.ชอบ-ไม่ชอบ กม.ออกสื่อ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรรคไทยสามัคคีประเทศไทย ท้าทายนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคพลังประชารัฐ และประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านวาระ 3 ที่ประชุมรัฐสภาไป หลังจากฝ่ายหลังออกโรงยืนยันผ่านสื่อว่า การแก้ไขรธน.ไม่มีปัญหา แต่เป็นหมอวรงค์เองที่มีปัญหากับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และหมอวรงค์ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตาม ม.256(7)ยื่นเรื่ิองให้ศาลรธน.ตีความ
นพ.วรงค์ ย้ำว่า แมัการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ตนจะได้รับเลือกตั้งตลอดแบบผูกขาดในจังหวัดพิษณุโลก แต่เห็นว่า หากกลับไปใช้บัตร 2 ใบจะเปิดช่องทางให้ทุนสามานย์สามารถทุ่มเงินซื่อเสียงและทุจริตเลือกตั้ง ยึดครองอำนาจทางการเมืองไว้กับตนและพวกพ้องได้เหมือนการเลือกตั้งตามรธน.ปี 40 หลายครั้ง และกลายเป็นพรรคการเมืองใหญ่ผูกขาดอำนาจและส.ส.ไว้ในมือ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่เกรงกลัวฝ่ายค้านและการตรวจสอบถ่วงดุล เนื่องจากเสียงส.ส.ฝ่ายค้านมีไม่พอ
”เลือกตั้งแบบเดิม ระบบเขตชนะเป็นหมื่นหรือชนะหลักสิบก็ชนะเลย คะแนนตกน้ำไม่มีผลต่อระบบบัญชีรายชื่อ จึงเปิดช่องให้กับพรรคที่มีทุนมหาศาลทุ่มเงินซื้อเสียงเพื่อชนะเลือกตั้ง”นพ.วรงค์กล่าว และย้ำว่า เขาท้าทายนายไพบูลย์ตีเบตประเด็นการแก้รธน.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะในวาระรับหลัการ ร่างแก้ไขมีเพียง ม.83 และม.91แต่ร่างที่ผ่านวาระ 3 กลับมี ม.86 เพิ่มเข้าไปด้วย หากไม่มีการยื่นศาลรธน.วินิจฉัย ต่อไปอาจเกิดปัญหาในลักษณะนี้ตามมา คือไปแก้ไขเกินหลักการที่รับในวาระแรก
อดีตส.ส.ปชป.หลายสมัย และเป็นคนเกาะติดความไม่ถูกต้องในโครงการรับจำนำข้าว จนนำไปสู่คดีทุจริตจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวด้วยว่า สื่อใหญ่ค่ายท็อปนิวส์ เสนอตัวเป็นสื่อกลางเพื่อจัดดีเบตเรื่องนี้ พร้อมจะจัดถ่ายทอดให้ ซึวีตตนพร้อมที่จะไปร่วม แต่นายไพบูลย์ยังอิดออด อ้างว่าหมอวรงค์ไม่ใช่นักกฎหมาย และต้องการดีเบตกับนักกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ตนเป็นนักการเมืองที่ศึกษาเรื่องราวต่างๆมามากมายสามารถดีเบตเรื่องนี้ได้ ตนจึงยืนยันจะท้าทายนายไพบูลย์ต่อไป
ประจักษ์ มะวงศ์สา