“หมอวรงค์”แถลงข่าว ปิดคดีรับจำนำข้าว ย้ำ ศาลตัดสินไม่เกี่ยวกับ คสช.อัด “แม้ว”ทวิต บั่นทอนกระบวนการ ยธ.
วันที่ 1 ก.ย.60 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวสรุปปิดคดีโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวในส่วนการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า โครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวเป็นการตรวจสอบในระบบรัฐสภา เริ่มต้นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ และการตั้งกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นการตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตย จึงไม่เกี่ยวกับคสช.ใด ๆ ทั้งสิ้น การตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์เรื่องนี้ไม่ใช่คดีการเมือง ไม่เกี่ยวกับเผด็จการ แต่เป็นการตรวจสอบการทุจริตของโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว แต่มีคนพยายามเอาเรื่องการเมืองและประชาธิปไตยเข้ามาเกี่ยวพันในเรื่องนี้ เช่น การทวิตเตอร์ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามชี้นำให้เกิดความเข้าใจว่ามีการชี้นำกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเพราะนายทักษิณเคยพยายามแทรกแซงศาลแต่ไม่สำเร็จจึงทำลายศาลใช่หรือไม่ และคดีทุจริตไม่สามารถลี้ภัยทางการเมืองได้จึงพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องการเมืองเพื่อหวังผลลี้ภัยการเมืองให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช่หรือไม่
น.พ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นครั้งแรกของการทุจริตเชิงนโยบายที่เกิดจากการสมคบกันระหว่างการเมือง ข้าราชการและเอกชนถูกดำเนินคดีร่วมกัน ถือเป็นอุทธาหรณ์ของนักการเมืองทุกฝ่ายว่าต้องไม่เข้ามาเพื่อกอบโกยหรือทุจริต และข้าราชการที่สนองการเมืองทุจริตก็ต้องถูกดำเนินคดี รวมทั้งกลุ่มนักธุรกิจก็ต้องไม่รวมหัวกับฝ่ายการเมืองเพื่อแสวงประโยชน์ โดยผลพวงจากการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ ป.ป.ช.สามารถขยายผลตรวจสอบการทุจริตจีทูจีรอบสองอีก 4 สัญญา รวม 14 ล้านตัน ซึ่งเป็นการทุจริตที่เกิดขึ้นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แสดงว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้ยับยั้งการทุจริตเลย และเชื่อว่าเส้นทางของคดีนี้จะไม่แตกต่างจากจีทูจีเก๊รอบแรก เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครเล่นเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ผู้กระทำผิดนำโดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจะไม่เป็นปัญหาเรื่องการฟ้องซ้ำ เพราะเป็นการทำผิดต่างกรรม ต่างวาระ และรัฐบาลต้องพิจารณาเรื่อง
พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดเพื่อเรียกค่าเสียหายกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังขยายผลแคชเชียร์เช็คในจำนำข้าวโยงไปถึงการทุจริตจีทูจีมันสำปะหลังอีก 4.79 ล้านตัน มีการอุปโลกรัฐวิสาหกิจจีนมาเป็นคู่สัญญา ไม่ได้เป็นจีทูจีจริงเหมือนกับกรณีจีทูจีเก๊ข้าว นอกจากนี้ มีการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริตข้าวถุงจากโครงการรับจำนำข้าวด้วย ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียดายที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ทั้งที่รัฐธรรมนูญปี 60 ก็เปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ได้ หากคิดว่าตัวเองไม่ผิดจะหนีทำไม พฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนว่านางสาวยิ่งลักษณ์มีนิสัยอย่างไร
ทางด้านของนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ของอัยการว่าทำงานสมกับเป็นทนายความของแผ่นดิน และเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยเชื่อถือได้ และไม่มีใครสั่งได้ จึงมีความพยายามที่จะทำลายล้าง โดยคำพิพากษาคดีจีทูจีเก๊เป็นไปอย่างถูกต้องและเปิดโอกาสให้มีการต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว แต่ที่อ้างเป็นคดีการเมืองก็เพื่อหวังผลในเรื่องการลี้ภัยทางการเมือง ขอให้ประชาชนร่วมกันปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย
ที่มา สยามรัฐ
สำนักข่าววิหคนิวส์