ข่าวประจำวัน » หมออ๋องหนาว !! อย่าเพ้อยุบก้าวไกลก้าวไม่เกี่ยวตุลาการก้าวก่ายนิติบัญญัติ

หมออ๋องหนาว !! อย่าเพ้อยุบก้าวไกลก้าวไม่เกี่ยวตุลาการก้าวก่ายนิติบัญญัติ

19 July 2024
28   0

วันนี้ (19 กรกฎาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ในสภาได้ดี แต่ล่าสุดที่ปดิพัทธ์ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อถึงประเด็นคดียุบพรรคก้าวไกล และได้พาดพิงว่าการยุบพรรคการเมืองเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของประชาชน แสดงว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย

ธนกรระบุว่า การพูดแบบนั้นระวังจะเป็นการก้าวล่วงศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลยังไม่ได้วินิจฉัยคดีนี้ และนัดฟังคำตัดสินในวันที่ 7 สิงหาคม การพูดไปล่วงหน้าต้องระมัดระวังการก้าวล่วงอำนาจศาล

ธนกรมองว่าประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมาแล้วเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกพรรคการเมืองต่างก็หาเสียงและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามกฎหมาย หากมีบุคคลหรือพรรคใดทำผิด ก็ควรยอมรับพฤติกรรมของตัวเอง

ทั้งนี้ หากท้ายที่สุดศาลมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร ก็ควรน้อมรับคำตัดสินแบบลูกผู้ชาย ไม่ควรพาลกล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่าแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะแต่ละอำนาจต่างทำหน้าที่ของตัวเอง หากฝ่ายนิติบัญญัติหรือพรรคการเมืองไม่กระทำความผิดเสียอย่าง ก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปได้

“เหมือนปดิพัทธ์กลัวถูกยุบพรรคมากจนบิดเบือนหลักการกฎหมาย พาลกล่าวหาก้าวล่วงถึงขั้นว่าแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ ทำประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น เป็นการกล่าวหาที่รุนแรง ถ้าทำผิด ควรยืดอกยอมรับแบบลูกผู้ชาย ไม่ควรมีพฤติกรรมแพ้แล้วพาล ต่อว่ากระบวนการยุติธรรม เพราะทุกคนในสังคมถ้าไม่เคารพกฎหมาย บ้านเมืองประเทศชาติจะมีหลักยึดอะไรได้อีก พรรคอื่นที่ไม่ได้ทำผิด ก็ไม่ต้องกลัวถูกยุบ และฝ่ายค้านก็ไม่ได้มีแค่ก้าวไกลพรรคเดียวที่จะทำหน้าที่ในสภา จึงขอเตือนในเรื่องนี้” ธนกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (18 กรกฎาคม) ปดิพัทธ์ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็น หลังศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล โดยมองว่าการยุบพรรคการเมืองเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของประชาชน และทำให้สถาบันนิติบัญญัติอ่อนแอ โดยเฉพาะประเทศใดก็ตามที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่มีการยุบพรรคฝ่ายค้าน กลไกการตรวจสอบรัฐบาลและการรักษาสิทธิของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็จะบกพร่องไปด้วย

ปดิพัทธ์ย้ำด้วยว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่หากนิติบัญญัติถูกฝ่ายอื่นแทรกแซง ห้ามไม่ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำแล้วมีโทษ ก็จะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าประเทศของเรายังไม่ได้เป็นประชาธิปไตย