5 ต.ค. 2565 จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมตัวนายพรเทพ (สงวนนามสกุล) พ่อค้าไก่หมุน ที่ปลอมตัวเป็นทนายความ โดยการสวมรอยเลขทนายของผู้อื่นและรับว่าความหลายคดี ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในตำบลคนที อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พบกับนางกิมไล้ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายพรเทพ พ่อค้าไก่หมุน ที่ปลอมตัวเป็นทนายความ
โดยนางกิมไล้ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านที่อาศัยอยู่ทุกวันนี้ เป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อแม่ ซึ่งในอดีตมีอาชีพขายของชำอยู่กว่า 20 ปี ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นขายของรถเร่ ตามหมู่บ้าน และอำเภอต่าง ๆ ตั้งแต่ ลูกชาย อายุได้ประมาณ 3 ขวบ จากนั้นได้หันมาค้าไม้บ้านเก่าและไปทำเฟอร์นิเจอร์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ประมาณ 6-7 ปี
ขณะเดียวกัน ลูกชายซึ่งเรียนอยู่จังหวัดนครสวรรค์ แม่ก็หาเลี้ยงชีพขายของเพื่อส่งเสียให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี หลังจากลูกชายจบรับปริญญาสำเร็จการศึกษาแล้วตนก็กลับมาอยู่ที่บ้านพักแห่งนี้ ซึ่งทราบแต่เพียงว่าบุตรชายทำงานอยู่ที่กรุงเทพทางด้านกฎหมาย แต่ระหว่างที่กำลังเรียนหนังสือลูกชายบ่นว่าอยากมีอาชีพเป็นตำรวจแต่สุดท้ายก็มาทำหน้าที่เป็นทนายดังที่ทราบกันอยู่
ขณะเดียวกัน ลูกชายมีลูกสาว อีก 2 คนซึ่งขณะนั้นอายุยังน้อยอยู่ในขณะนั้น แต่ก็ได้เลิกกับภรรยาไปก่อนหน้าแล้วได้กลับมาเยี่ยมแล้วก็มาปักหลักอยู่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งก็ได้หาเลี้ยงชีพด้วยการขับรถกระบะ ออกเร่ขายไก่หมุนยังต่างอำเภอ แต่ก็ขายอยู่ไม่กี่เดือนก็ต้องหยุดกิจการไปเพราะขายไม่ดีไม่มีทุนไปต่อยอดในการซื้อไก่และในที่สุดรถกระบะก็ถูกยึด เนื่องจากช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี
ต่อมา ลูกชายนำรถไปเข้าไฟแนนซ์โดยที่ไม่ยอมเปิดเผยให้แม่ทราบ แต่ในที่สุดเมื่อไปไม่รอดได้พูดคุยกัน และหลังจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าโศกเสียใจแม่มาก และมีความกลัดกลุ้มใจ ผู้สื่อข่าว ได้ปลอบใจนางกิมไล้ ให้ทำใจให้สบาย เนื่องจาจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเนื่องจากนางกิมไล้ สุขภาพ ไม่ดี มีอาการป่วยหลายโรค จะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบล ได้เข้ามาดูแลในเบื้องต้นแล้ว โดยนางกิมไล้ เปิดเผยว่า ตนมีลูกชายคนเดียว อายุ 35 ปี หลานสาวอีกสองคน อายุ 7 ขวบ 8 ขวบ ส่วนที่ผ่านมา ตนไม่เคยรู้เรื่องพฤติกรรมของลูกชายเลย เพิ่งจะมารู้เรื่อง เมื่อเช้าวันนี้ ที่มีนักข่าวมาสอบถาม ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงเสียใจและยังไม่รู้ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไรในอนาคตเราก็ลูกหลานอีกสองคนที่ต้องดูแล ซึ่งตนเองก็พิการเดินเหินไม่ได้แล้วแถมยังมีโรคประจำตัวอีกหลายอย่างในขนาดนี้ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไป
นางกิมไล้ เล่าด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า ตำรวจมาจับลูกชายวันที่ 2 ต.ค.2565 ไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน ตำรวจมาจับลูกชาย ตั้งแต่วันนั้นไม่เคยได้ติดต่อลูกชายเลย อยากจะเดินไปส่งยังไปไม่ได้เพราะตนเองเดินไม่ได้ ร้องไห้ใจจะขาด ตำรวจก็นั่งขนาบข้าง วันนั้นบอกคุณตำรวจว่าให้จับแม่ไปแทนได้มั๊ย จะได้ให้ลูกชายเลี้ยงลูก แม่ไม่มีรายได้ ตอนนี้แม่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีปัญญาจะหาเงินมาประกันลูกชาย เพื่อให้เขามาดูแลครอบครัว แม่ใจจะขาด แม่คิดถึง มาเล่าให้แม่ฟัง เรื่องราวเป็นอย่างไร แม่ใจจะขาด แม่ร้องไห้ทุกวัน ทำไมลูกไม่เล่าอะไรให้แม่ฟัง
พิพัฒน์ จงมีความสุข ผู้สื่อข่าว จ.กำแพงเพชร
เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website – www.komchadluek.net
Facebook – https://www.facebook.com/komchadluek