.
วันนี้ (27 ธันวาคม) สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ดำเนินการพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย หลัง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ลงรูปภาพในอินสตาแกรมส่วนตัว คู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 44, 45, 28, 29 และความผิดตามมาตรา 92 (3) (4) หรือไม่
.
โดยสนธิญากล่าวว่า ขอให้ กกต. ทำการไต่สวนวินิจฉัย และพิจารณาถึงกรณีแพทองธารได้เดินทางไปพบทักษิณผู้เป็นพ่อที่ฮ่องกง แม้เป็นพ่อลูกกันแต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการหรือส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนคุกคามความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน
.
ส่วนเหตุผลที่ทำไมไม่มาร้องเรียนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น เนื่องจากขณะนั้นแพทองธารยังไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญในพรรคเพื่อไทย รวมถึงไม่ได้เป็นผู้ประกาศนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย
.
สนธิญากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าทักษิณและยิ่งลักษณ์เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ และมีคำตัดสินออกมาแล้ว การที่แพทองธารซึ่งมีตำแหน่งในพรรคก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45 และการที่ทักษิณมีการไลฟ์ผ่านมาประเทศไทยทุกๆ วันอังคารนั้นคือการก่อกวน ถ้าบริสุทธิ์ ยุติธรรม เชื่อมั่นในความสุจริตของตัวเองก็ต้องกลับมาประเทศไทยเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
.
สนธิญายืนยันว่า ที่มายื่นให้ กกต. ตรวจสอบแพทองธารในวันนี้ ไม่ได้ในฐานะที่เป็นพ่อ-ลูกกับทักษิณ แต่มายื่นเพราะแพทองธารมีตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความคาบเกี่ยวกับ พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
.
“ด้วยเหตุผลทั้งหมดผมจึงกราบเรียนว่า เพื่อที่จะนำการกระทำและพฤติกรรมของแพทองธารให้ กกต. โปรดวินิจฉัยตามประเด็นกฎหมายที่ร้องเรียนไป และบทกำหนดโทษตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในมาตรา 92 (3) (4) คือวินิจฉัยยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองหากพบว่ามีความผิดจริงต่อไป” สนธิญากล่าวในที่สุด