เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค. พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพน้อยที่ 4 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงกรณีที่มีคนร้ายลอบวางระเบิดปั้มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ หลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นขณะนี้พบจุดที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 17 จุด ในพื้นที่จ.ปัตตานี 2 จุด จ.ยะลา 6 จุด และจ.นราธิวาส 9 จุด เป้าหมายคือร้านสะดวกซื้อ 7-11 จำนวน 11แห่ง มินิบิ๊กซี 4 แห่ง เสาส่งสัญญาณ 1 แห่ง และปั้มบางจาก 1 แห่ง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นพนักงานร้าน และคนที่มาใช้บริการ ส่วนใหญ่จะมีอาการหูอื้อ ทั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปปัจจัยการก่อเหตุได้ แต่เป็นความพยายามก่อเหตุมาต่อเรื่องตั้งแต่ช่วงเดือนรอมฎอน ในการสะสมกำลังพล เรื่องของการเตรียมอาวุธ พวกระเบิด ซึ่งหลังรอมฎอน ก็ก่อเหตุมาตลอด
สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นสันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เพราะมีลักษณะก่อเหตุเหมือนกัน คือมีการใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ และมีการแต่งกายคล้ายผู้หญิง ใช้ระเบิดเพลิงขว้างเข้าไปในที่พื้นที่เป้าหมาย บางแห่งเป็นการวางระเบิดข้างในและกดระเบิด แต่ที่หนักที่สุดคือที่ปั้มบางจาก เพราะเป็นการใช้ระเบิดแสวงเครื่องจุดระเบิดผ่านถังแก๊สที่วางไว้ตรงรถบรรทุกน้ำมันที่จอดตรงหัวจ่ายน้ำมัน จุดนี้ทำให้ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุทางพล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่รีบควบคุมสถานการณ์ และขณะนี้ทางชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรืออีโอดี และชุดพิสูจน์หลักฐานได้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบหลักฐานนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป ที่สำคัญตอนนี้เราต้องดำเนินการคือหาตัวผู้ทำความผิดและเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย โดยเชื่อว่าเป็นความพยายามของกลุ่มขบวนการโดยไม่เน้นเป้าหมาย แต่เน้นกลุ่มเปราะบางและอ่อนแอ เพราะหลังจากการพูดคุยสันติสุขเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา วันที่ 3 ส.ค.กลุ่มคนร้ายก็ลอบยิงชาวบ้านที่ไปหาของป่าที่จ.นราธิวาสเสียชีวิตทันที จากนั้นก็มีเหตุการณ์วางระเบิดแหล่งท่องเที่ยว ยิงชาวบ้าน ยิงรถไฟ วางระเบิดร้านสะดวกซื้อ โดยเขามีวิธีการทำลายเน้นเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งเป็นเป้าหมายกลุ่มเดิมๆของโจร เพราะส่งผลกระทบต่อความรู้สึก และสร้างความเดือดร้อน ทำลายยานพาหนะ และทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ อีกทั้งระยะหลังเพื่อต้องการกดดันรัฐบาลและทำลายความน่าเชื่อถือ
เมื่อถามว่า เกี่ยวกับว่าช่วงนี้เป็นช่วงปลายสมัยรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ เพื่อทำลายเสถียรภาพรัฐบาล เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ล่อแหลม แต่ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากปัจจัยอะไร