ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการแถลงข่าวนาย “ชูวิทย์” กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานยื่นให้แก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อทำการตรวจสอบพฤติกรรมของนาย “สันธนะ” ประยูรัตน์ ว่ามีความเกี่ยวโยงกับกลุ่ม “นายทุนชาวจีน” ที่กันมากระทำผิดกฎหมายในเมืองไทยหรือไม่ อย่างไร
โดยนาย ชูวิทย์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าตนทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี เพื่อเปิดเรื่องนึ้ให้สังคมไทยได้เห็นว่า กลุ่ม “นายทุนชาวจีน” ดังกล่าวมีความอันตรายอย่างไร ตนได้พูดเรื่องนี้มานานหลายเดือนแล้ว กระทั่งมาพูดถึงกลุ่ม 5 เสือจีน ที่ถูกจับกุมไป 2 คน เหลือ 3 คนที่ยังหลบหนี ถ้า 5 คนนี้บริสุทธิ์จริงจะหลบหนีทำไม ไม่จำเป็นต้องหลบหนี จะซื้อรถอะไรก็ซื้อได้ไม่ต้องใส่ชื่อคนอื่นมาสวม ที่ผ่านมาตนไม่เคยเอ่ยชื่อนาย สันธนะ แม้แต่คำเดียว จู่ๆนาย “สันธนะ” ก็โผล่มาที่โรงแรมตนแล้วก็ถ่ายคลิปว่ามีการจัดการมั่วสุมในโรงแรมตน ตนเป็นผู้ใหญ่อายุ 60 ปีแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะโรงแรมตนเป็นระดับ 5 ดาว ก็ต้องต้อนรับ แม้“ตำรวจ” จะมีการปิดกั้นพื้นที่ทำให้เกิดความเสียหายแต่ตนยินยอมแต่โดยดี แต่นายสันธนะกลับมีพฤติกรรมที่ประหลาดมาด่าว่า พลเมืองดีอย่างตน เห็นควรที่ทางรอง ผบ.ตร.ควรจะปกป้องตนด้วย
นาย“ชูวิทย์” ยังเปิดเผยอีกว่า วันนี้นาย “สันธนะ” ได้ให้สัมภาษณ์สื่อหนึ่งที่ระบุว่า รู้จักกับคนจีนทั้ง 5 คนและอ้างว่าคนจีนดังกล่าวเป็นกลุ่มบริสุทธิ์ วันนี้ตนมีคลิปหลักฐานที่นาย “สันธนะ” ให้สัมภาษณ์ว่า รู้จักกับ 5 เสือนี้ดี และเอ่ยชื่อพาดพิงถึงธรรมนัสว่า รู้จักดีและฝากให้ดูแลกลุ่มทุนจีนนี้ อย่าให้ใครรังแก ตนจึงนำคลิปหลักฐานและเอกสารทั้งหมดมายื่นแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และขอให้ความเป็นธรรมแก่พลเมืองดี ที่ทำเพื่อสังคมอย่างตน ที่นำข้อมูลมาเปิดเผย เรื่องนี้มันเป็นขบวนการ มีการเอาคนออกมาปกป้อง เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นาย“ชูวิทย์” กำลังยื่นหนังสือเอกสารหลักฐานดังกล่าวนาย“สันธนะ” ประยูรรัตน์ได้ปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณประตูห้องประชุมชั้น 3 ของสน.ทองหล่อ ที่ใช้เป็นห้องที่ใช้สำหรับการประชุมในวันนี้โดยนาย“สันธนะ”ได้ร้องโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้องใช้มือทุบประตูเพื่อจะเข้ามาภายในห้อง ทำให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องสั่งการให้พ.ต.อ ดวงโชติเชิญตัวนาย“สันธนะ” ไปที่ห้องทำงาน ผกก.ที่ชั้นสอง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันระหว่างนาย“สันธนะ”กับนาย“ชูวิทย์”
โดยนาย“สันธนะ”ได้เข้าไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์และพ.ต.อ.ดวงโชติในห้องทำงานที่ชั้น 2 ในขณะที่ชูวิทย์ เดินตามลงมานั้น รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นและประกาศว่าจะยืนรอจนกว่านาย“สันธนะ” จะออกมาเพื่อจะขอถามว่ามันเกี่ยวข้องอะไร แล้วมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำไม ในฐานะอะไร หลังจากนั้น 10 นาทีให้หลัง นาย“สันธนะ”ได้ออกมาจากห้องทำงาน ผกก.สน.ทองหล่อ เดินลงมาที่ชั้นล่างพบกับนายชูวิทย์ ที่ให้สัมภาษณ์ สื่อมวชลอยู่ ก็ออกปากชี้ว่า ให้มาคุยตัวต่อตัว พร้อมกระชากเนคไท ของตัวเองออก ขณะที่นาย “สันธนะ” อยู่ในอาการยิ้มมุมปาก เมื่อสองคนมาเจอกันนาย “ชูวิทย์” ได้ปรี่เข้าไปประจันหน้ากับนาย “สันธนะ” เกือบวางมวยกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ไว้โดยจับทั้งคู่แยกออกจากการโดยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด ในขณะที่นาย“ชูวิทย” นั้นประกาศตัดขาดกับ นาย“สันธนะ” และขอจองล้างจองผลาญกับนาย“สันธนะ”ตลอดไปไม่ว่าจะไปโผล่ที่บ่อนไหน หรือ ที่ไหนก็ตาม ก่อนนะนาย “ชูวิทย์” จะแยกย้ายกลับไปขณะที่นาย“สันธนะ”เดินไปพักในห้อง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยยกนิ้วโป้งให้นาย“ชูวิทย์”แล้วบอกว่า ” เยี่ยมๆ” โดยนาย “สันธนะ”ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีกับนาย“ชูวิทย์”ในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า