เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #“ห้ามกษัตริย์มีอำนาจ” ! ปิดยบุตร เพ้อใหญ่ ให้อออกกฎหมายห้ามมีอำนาจการเมือง

#“ห้ามกษัตริย์มีอำนาจ” ! ปิดยบุตร เพ้อใหญ่ ให้อออกกฎหมายห้ามมีอำนาจการเมือง

17 February 2022
1168   0

 

หลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ทวีตข้อความ พาดพิงถึงสถาบันฯ ระบุว่า “ผมเชื่อและทำการเมืองแนวนี้ หลอมรวมประชาชนสู้กับชนชั้นนำ 1% เพื่อเอาอำนาจ ทรัพยากรกลับมาไว้ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ มิใช่เลี้ยงความขัดแย้งในหมู่ประชาชนที่เชียร์คนละพรรค ขัดแย้งกันอยู่ในประเด็นว่าเอ็งพวกใคร แล้วปล่อยให้นักการเมืองชนชั้นนำแย่งกันเข้าไปแบ่งปันประโยชน์กับพวก 1% จะปฏิรูปสถาบันกษัตริย์/ศาล/กองทัพ กระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด สร้างสวัสดิการ กระจายที่ดิน ได้อย่างไร
.
หากไม่มี “แนวร่วม” จากประชาชนทุกฝักฝ่าย การคงความขัดแย้ง เอ็งพวกข้า เอ็งไม่ใช่ โดยสร้าง “ดัชนีชี้วัด” กันขึ้นมา แล้วก็ตัดสินคนอื่น ๆ ไม่อาจช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้ มันทำได้แต่เพียงเลี้ยงความขัดแย้งในหมู่ประชาชนไป แล้วสุดท้ายพวก 1% ก็ยังเสวยสุขแบบเดิม และ political elite แบบเดิม ๆ ก็เข้าไปแบ่งชิ้นเนื้อจากพวกเขา ”
.
ล่าสุดนายปิยบุตร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ร่ายยาวข้อความที่มีการจี้ให้ออกกฎหมาย ห้ามพระมหากษัตริย์มีอำนาจทางการเมือง โดยระบุดังนี้ว่า การให้เหตุผลของรอยัลลิสต์บางฝ่ายไม่เป็นคุณกับสถาบันกษัตริย์
ช่วงหนึ่งถึงสองปีมานี้ นับแต่ประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ถูกหยิบยกขึ้นในที่สาธารณะอีกครั้งโดยกลุ่มผู้ชุมนุม “ราษฎร” ทำให้เกิดข้อถกเถียงอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นสถาบันกษัตริย์จำนวนมาก ทั้งในเรื่องพระราชอำนาจ พระราชทรัพย์ ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญ ประวัติศาสตร์เรื่อง “การเสียดินแดน” เป็นต้น
.
รอยัลลิสต์บางฝ่ายพยายามตอบโต้ และชี้นำความคิดให้แก่ผู้สนับสนุนฝ่ายตนเอง ด้วยการผลิตสื่อ ใช้โซเชียล มีเดีย สร้างอินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายตนเองขึ้นมา เพื่อ “ตรึง” คนของฝักฝ่ายตนเองไม่ให้เปลี่ยนความคิด และแปลงตนให้เป็น “พลเมืองเอาการเอางาน” หรือ active citizen ในการพา “ทัวร์ไปลง” ฝ่ายปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ผมสำรวจชุดการให้เหตุผลของพวกเขาแล้ว พบว่า วนเวียนอยู่แบบเดิม ถ้าไม่ทับถมว่า ฝ่ายปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เข้าใจผิด โดนเฟคนิวส์ โดนนักวิชาการปลุกปั่น ก็อ้างว่าพระราชอำนาจเป็นของกษัตริย์มานานแล้ว พระราชทรัพย์ในส่วนนี้ ในส่วนนั้น เป็นของกษัตริย์มานานแล้วเรื่องโต้เถียงกันแบบนี้ ก็ว่ากันไปในการต่อสู้สงครามทางความคิด
.
แต่ไม่ว่าพวกรอยัลลิสต์เหล่านี้จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม การให้เหตุผลอธิบายในบางกรณีกลับไม่เป็นคุณต่อสถาบันกษัตริย์ในสังคมประชาธิปไตย ผู้ใดมีอำนาจ ผู้นั้นต้องรับผิดชอบ ถูกตรวจสอบ มีความรับผิดได้ เราจะยอมให้ ใครก็ตามที่มีอำนาจทางการเมือง อำนาจทางเศรษฐกิจ ใช้อำนาจเหล่านั้นแล้ว ไม่ต้องถูกตรวจสอบ ทำอะไรก็ไม่มีวันผิด ทำอะไรก็ไม่มีวันถูกดำเนินคดี ฟ้องร้อง ทำอะไรก็ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนคนอื่น ๆ อย่างนั้นหรือ?สูตรง่าย ๆ ก็คือ “มีอำนาจ ใช้อำนาจ ต้องรับผิด” “ไม่มีอำนาจ ไม่ใช้อำนาจ ไม่ต้องรับผิด” แบบนี้ถูกต้อง
แต่ “มีอำนาจ ใช้อำนาจ ไม่ต้องรับผิด” “ไม่มีอำนาจ ไม่ใช้อำนาจ ต้องรับผิด” แบบนี้ผิด
.
การอธิบายของฝ่ายรอยัลลิสต์บางพวกที่นำไปสู่ข้อสรุปข้อยืนยันว่า กษัตริย์มีอำนาจโดยแท้ กษัตริย์มีอำนาจกระทำการได้เองโดยลำพัง กษัตริย์เป็นผู้เล่นทางเศรษฐกิจ ถือหุ้นเสียงข้างมากได้ด้วยพระองค์เอง เรื่องแบบนี้ดีแล้ว ถูกแล้ว ไม่แปลกประหลาดแต่อย่างใด การอธิบายเช่นนี้ยิ่งทำให้ กษัตริย์ไม่มีรัฐบาลหรือองค์กรอื่นมาเป็น “กันชน” คอยรับผิดชอบแทน และจะอธิบายต่อได้ยากว่า ถ้าหากกษัตริย์มีอำนาจโดยแท้ กระทำการโดยตนเอง แล้ว กษัตริย์จะมีเอกสิทธิ์ความคุ้มกัน “ละเมิดมิได้ กล่าวหาหรือฟ้องร้องในทางใดมิได้” ต่อไปได้อย่างไร?
.
หากต้องการรักษาสถาบันกษัตริย์ หากรักสถาบันกษัตริย์จริง ยิ่งต้องออกแบบระบบกฎหมายให้กษัตริย์ไม่มีอำนาจทางการเมืองโดนแท้ ไม่มีอำนาจทางเศรษฐกิจโดยแท้
.
เมื่อไม่มีอำนาจ ไม่ได้กระทำการด้วยตนเอง ก็ไม่ต้องรับผิด เมื่อไม่มีอำนาจ ไม่ได้กระทำการด้วยตนเอง ก็ไม่ต้องถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ ก็ดำรงสถานะเป็นที่เคารพ และสถานะความเป็นกลางได้
.
ตรงกันข้าม หากสนับสนุนให้กษัตริย์มีพระราชอำนาจทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางการบริหารราชการแผ่นดิน มากเท่าไร หากสนับสนุนให้กษัตริย์ใช้อำนาจในทางสาธารณะด้วยตนเอง มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้สถานะอันเป็นที่เคารพ สถานะความเป็นกลาง ถูกกระทบกระเทือนมากเท่านั้น ก็ยิ่งทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เมื่อใช้อำนาจเองตามลำพัง แล้วจะรับผิดอย่างไร?
.
ถ้าต้องการให้กษัตริย์ “เป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้” ถ้าต้องการให้ “ผู้ใดกล่าวหาหรือฟ้องร้องกษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้”ก็ต้องไม่ให้กษัตริย์มีพระราชอำนาจกระทำการในทางการเมือง การบริหาร เศรษฐกิจ โดยแท้ โดยลำพัง
.