วันนี้ (1 ก.พ. 65) นายอติเทพ ธิติพนธ์ น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา และนายเอกชัย หงส์กังวาน เดินทางเข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องยุบพรรคพลังประชารัฐ โดยนำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มายื่นเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นายอติเทพ เปิดเผยว่า คำร้องนี้เป็นผลพวงมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้นายสิระ เจนจาคะ พ้นสภาพการเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.62 เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาคดีฉ้อโกง วันนี้จึงเดินทางมาให้ถ้อยคำประกอบคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ และดำเนินคดีกับคณะกรรมการบริหารพรรค
การเป็นสมาชิกภาพของนายสิระ ไม่มีผลตั้งแต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ กำหนดให้พรรคการเมืองต้องร่วมกันรับผิดชอบในการใด ๆ ที่ผลทางกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ โดยการยื่นเอาผิดครั้งนี้จะเป็นการตั้งคำถามว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้ยุบพรรคได้หรือไม่ เพราะการพ้นสมาชิกภาพของนายสิระ มีผลผูกพันกับพรรคพลังประชารัฐ อาจมีความผิดตาม มาตรา 21 คณะกรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบร่วมกัน ระมัดระวังรอบคอบ ซื่อสัตย์ และสุจริต
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้ง ปี 2562 มีคำสั่ง คสช. ให้ผู้สมัคร ส.ส.รับรองคุณสมบัติตนเอง และส่งให้หัวหน้าพรรคเซ็นยินยอม สามารถเอาผิดจนถึงยุบพรรคได้หรือไม่ นายอติเทพ ระบุว่า ขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจของ กกต.ที่จะพิจารณาว่า การลงเลือกตั้งของนายสิระ เป็นไปในนามพรรคหรือไม่ ซึ่งหากหัวหน้าพรรคเซ็นยินยอมย่อมมีความผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังได้ไปยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เพิกถอนถ้อยคำใด ๆ ที่นายสิระให้ไว้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด ส่วนป้ายชื่อของนายสิระจะต้องเพิกถอนด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเห็น และอำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ
นางสาววรรณวลี ตั้งข้อสังเกตว่า หากเอกสารที่นายสิระยื่นสมัคร ส.ส.ชี้ชัดว่า ขาดคุณสมบัติตั้งแต่แรก ทำไมพรรคไม่มีการตรวจทานให้ดี ส่วนคำพูดของนายสิระในสภาผู้แทนราษฎร ควรจะมีผลโมฆะตั้งแต่แรกเช่นกัน