นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยืนยัน จะดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาพรรคตามกฎหมาย แก้ไขปัญหาโดยใช้ระบบรัฐสภา และจะไม่เป็น “ผู้นำ”ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนน แต่หากจะมีใครชุมนุมเดินขบวน พรรคก็ไม่สามารถห้ามได้
1 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้ของพรรค หลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากรณีการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ว่า พรรคอนาคตใหม่ยืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย แม้คดีที่นายธนาธรเผชิญอยู่จะไม่ใช่คดีตามกฎหมาย แต่เป็นคดีทางการเมือง เพื่อกันไม่ให้นายธนาธรเข้าสภา
ส่วนที่นายธนาธร ระบุว่า อาจจะฟ้องร้องว่าที่ ส.ส.ของพรรคอื่น ที่มีคดีหุ้นสื่อนั้น ไม่ได้หมายความว่าพรรคอนาคตใหม่ต้องการประกาศตัวเป็นศัตรูกับพรรคอื่น แต่การที่พรรคอนาคตใหม่ถูกกระทำเช่นนี้ก็ต้องให้ข้อมูล หรือร้องเรียน หรือสงวนสิทธิใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อจะได้เห็นว่าทุกพรรคการเมืองได้รับการปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกันหรือไม่
สำหรับกรณีของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ถือว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายร้องความเท็จ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมีว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เป็นผู้เสียหาย ดังนั้น พรรคจึงยืนยันสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีอาญากับนายศรีสุวรรณ และจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด
แม้ก่อนหน้านี้ นายธนาธร ระบุว่า ความอดทนกำลังใกล้จะหมด ทำให้บางฝ่ายมองว่า อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวบนท้องถนนของประชาชนนั้น นายชำนาญ ยืนยันว่า การเดินขบวนเป็นหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถห้ามได้ แต่เราจะไม่เป็นผู้นำ เพราะไม่ต้องการเห็นความสูญเสียอีกแล้ว โดยทางพรรคย้ำจุดยืนจะใช้รัฐสภาเป็นหลัก ในการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง
Cr.thaipbs
สำนักข่าววิหคนิวส์