นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เห็นชอบเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เพิ่มอีก 2 ล้านฉบับ เพิ่มจาก 7.1 ล้านฉบับ เป็น 9.1 ล้านฉบับ ประจำงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2565 เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เช้าวันที่ 2 สิงหาคม 2565 จำนวนผู้ค้า 18,000 ราย จากนั้นจะติดตามผลการจำหน่ายสลากอย่างใกล้ชิด ในงวดถัดไปอีก 1-2 ล้านฉบับทุกงวด เพื่อให้ค่อยเป็นค่อยไป และรักษาสมดุลระหว่างสลากใบและระบบดิจิทัล รองรับประชาชน หาเลือกซื้อสลาก ที่ต้องการในราคา 80 บาท นอกจากนี้ ยังเพิ่มเมนูในแอปเป๋าตังจากร้านค้าคนพิการ เพื่อเปิดให้เลือกซื้อในกลุ่มคนพิการ
การเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัลครั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนผู้ซื้อสลาก เพื่อสร้างกลไกราคา 80 บาท หลังจากยอดซื้อสลากดิจิทัล จำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วในช่วง 2 วันแรก เฉลี่ยซื้อ 6-7 ใบต่อราย มีเพียง 1 รายที่ซื้อสูงสุด 3,000 ใบ และมีเพียง 2-3 รายที่ซื้อ 2,000 ใบ ส่วนที่เหลือมีประมาณ 1,000 ใบ ประปราย เท่านั้น ส่วนที่เหลือซื้อเลขชุดสูงสุด 7 ใบตั้งแต่เปิดจำหน่าย และกลุ่มดังกล่าวไม่ได้มีพฤติกรรมไปขายต่อ กองสลากตรวจสอบได้ทั้งหมดว่าใครซื้อซื้อไปเพื่ออะไร และกรณีที่อ้างว่ามียี่ปั๊วเร่งดึงสลากออกจากระบบเพื่อให้สลากใบขายเกินราคาได้ จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ซื้อสลากยังไม่ได้ผิดปกติ และไม่ได้มีผลอะไรขนาดนั้น
ทั้งนี้ยังกำหนดเป้าหมายเพิ่มไม่เกิน 20 ล้านฉบับ ภายในสิ้นปี 65 ส่วนสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น มาจากสลากในระบบซื้อจองล่วงหน้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
บอร์ดสลากยังเห็นชอบขั้นตอนการสุ่มตัวแทนผู้ค้าสลากซื้อ-จองล่วงหน้า หลังจากได้คัดกรองผู้สมัครตัวแทนจำหน่ายจ่าย 9 แสนคน เหลือ 7 หมื่นคน โดยพรุ่งนี้ 22 กรกฎาคม เตรียมประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดกรองคุณสมบัติ 7 หมื่นคน และจะเปิดให้ผู้ไม่ผ่านคัดเลือก ยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 วัน จากนั้นจะนำรายชื่อมาทำการสุ่มเลือกในวันที่ 10 สิงหาคมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาเป็นคนกลางมาช่วยดูแลระบบ เมื่อคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายได้แล้ว จะเปิดให้มาสมัคร เพื่อนำสลากเข้าจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละงวด
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การเดินหน้ารับฟังความเห็นการออกรางวัลเลข 3 หลัก ผู้ค้ามองว่าไม่ได้แย่งตลาด เพราะขณะนี้ไม่มีข้อคัดค้าน และมีแนวโน้มในการสนับสนุนน นับเป็นทางเลือกให้กับประชาชน จึงพร้อมกระจายการจัดเวทีรับฟังความเห็นในหลายจังหวัด สำหรับรางวัลที่ไม่มีคนถูกรางวัล พร้อมนำรางวัลสะสมไปในงวดถัดไป อีกทั้งเมื่อออกรางวัลตาม พ.ร.บ.สลากฯ ปัจจุบัน ได้นำเงินส่งเข้าคลัง ร้อยละ 23 เงินรางวัลร้อยละ 60 และค่าใช้จ่ายดำเนินการร้อยละ 3 จึงถือว่าเป็นสลากกินแบ่ง ไม่ใช่สลากกินรวบ เมื่อสรุปแนวทางรับฟังความเห็นครบถ้วนแล้ว พร้อมเสนอบอร์ดและคลังพิจารณาในขั้นต่อไป