สยามรัฐ – วันที่ 11 ก.ย.60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการต้องถามถึงกรณีนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้จัดรัฐบาลแห่งชาติ ว่า ท่านได้มองเห็นปัญหาที่มีอยู่ในใจของคนจำนวนมากว่าหาทางออกไม่เจอ เมื่อประเทศเดินต่อไปและจะไม่ให้เกิดความขัดแย้งจะทำอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับ แม้เราจะเห็นด้วยหรือไม่แต่ความกังวลนี้อยู่ในใจคนจำนวนมาก
นอกจากนี้ไม่แน่ใจว่าข้อเสนอของนายพิชัยจะมีรูปแบบใด เนื่องจากพูดเพียงว่านำพรรคการเมืองทุกพรรคมาและให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหลัก ในการจัดเรื่องนี้ แต่ก็พูดไม่ชัดว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง และไม่ได้พูดเจาะจงว่าจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี รูปแบบการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร หากเป็นก่อนเลือกตั้งในทางปฏิบัติคงไม่ง่าย เพราะพรรคการเมืองต่างๆมีความลังเลเป็นพื้นฐานอยู่แล้วว่าจะเข้าร่วมได้อย่างไร เพราะพรรคการเมืองต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากการเลือกตั้ง และจะเลือกกี่พรรคในการเข้าไปร่วม ถามว่าความชอบธรรมอยู่ตรงไหนเพราะไม่มีส.ส. และหากจะจัดตั้งรัฐบาลก่อนเลือกตั้งจะต้องเปลี่ยนโรดแมปหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าหากจะพยายามเปลี่ยนโรดแมปมีแต่จะทำให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือในประเทศลดลง และไม่เป็นผลดีนัก วันนี้ผ่านมา 3 ปีกว่าเข้าสู่ปีที่ 4 ขณะนี้ทุกคนมีแต่มองว่าให้เดินตามโรดแมปไปสู่การเลือกตั้งและหลายคนตั้งความหวังไว้สูงมากในการเลือกตั้ง จะเป็นจุดเปลี่ยนในเรื่องเศรษฐกิจและปากท้องได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหลังเลือกตั้ง ยืนยันตลอดว่าเราควรจะเคารพประชาชน เพราะเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วจะรู้ล่วงหน้าว่าทุกพรรคจะไปเป็นรัฐบาลจะเลือกตั้งทำไม เพราะเลือกมาแล้วก็ได้แบบนี้ ซึ่งไม่ใช่หลักของการใช้กลไกประชาธิปไตย ตนถึงได้ย้ำใน 2 ประเด็น คือ 1.รัฐบาลหลังการเลือกตั้งต้องเป็นรัฐบาลรวบรวมจากเสียงส.ส.เกิน 250 คนเป็นหลัก และส.ว. 250 คน ไม่ควรไปฝืนการรวมตัวของส.ส.เกิน 250 คน และ2.วันนี้ที่ทุกอย่างมองว่ามันคือทางตัน เพราะส่วนใหญ่เรากำลังมองบุคคลกับพวก แต่ไม่พูดถึงทิศทางประเทศและนโยบายในการแก้ปัญหา ถ้าเราหันกลับมามองปัญหาประเทศ ยึดประชาชนเป็นตัวตั้ง เราอาจจะเจอทางออกก็ได้
เมื่อถามว่าหากสิ่งที่นายพิชัยเสนอแปลได้ว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง เท่ากับคนที่มีอำนาจในปัจจุบันจะต้องเป็นคนดึงกลุ่มพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจะได้ไม่มีปัญหาและยืดเวลาเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อาจมีบางคนที่เห็นด้วย แต่คิดว่าขณะนี้คนไม่ต้องการเห็นความไม่แน่นอนเพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่จะอยู่นานเท่าไหร่ ที่สำคัญ ความอันตรายอย่างหนึ่งของรัฐบาลแห่งชาติ คือ ขาดการตรวจสอบ ในภาวะที่ไม่มีเลือกตั้งและในภาวะพิเศษก็จะมีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ในฐานะลำบาก เพราะโจมตีนักการเมืองบ่อยมาก วันดีคืนดี คนที่เคยบอกว่าไม่ดี แล้วดีอย่างไรจึงต้องนำไปอยู่ในรัฐบาล การจะบอกว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นความตั้งใจดีไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ขอบอกว่าความขัดแย้งไม่ได้เกิดจากพรรคการเมือง แต่ประชาชนต่างหากคือผู้ที่ให้คำตอบ ถ้าประชาชนไม่ยอมรับพรรคการเมืองว่าทำอย่างนี้ไม่ใช่แนวทางที่ประชาชนสนับสนุน ก็จะมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจเคลื่อนไหวอยู่ดี ดังนั้น เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์จะต้องยืนยันในแนวทางและโรดแมปที่วางไว้ และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ในแง่ พล.อ.ประยุทธ์ในขณะนี้ คือการทำความเข้าใจกับพรรคการเมือง มากกว่าหลังการเลือกตั้งถ้าบ้านเมืองจะกลับสู่ประชาธิปไตยอะไรบ้างที่พรรคการเมืองจะแสดงออกให้เห็นว่าจะไม่นำไปสู่ปัญหาเดิมๆ
สำนักข่าววิหคนิวส์