เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2564 ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงการปรับตัวในโลกยุคใหม่ที่่ต้องเผชิญกับโรคโควิด-19 โดยระบุถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองต้องป่วยเป็นโรคโควิด-19 และรักษาจนหายดีว่า “ตอนผมป่วย อยู่ไอซียู อายุคน 70 ปี มันลงปอด หมอไม่รักษาอะไรเลย รักษาปอดอย่างเดียว โควิดไม่สนใจเลย ถ้าร่างกายมีภูมิคุ้มกันพอ โควิดก็หายไปเอง รักษาปอด ระหว่างลงปอดออกซิเจนลงต่ำ เข้าห้องน้ำจะฉี่ใจจะสั่น ทำให้ร่างกายมันไม่แข็งแรง หากสู้ไม่ไหวก็ต้องเจาะคอ แต่ผมแข็งแรงพอสู้ไหว คนที่มีโรคประจำตัวหนักไปอีก”
.
“คนที่ตายส่วนใหญ่เป็นพวกเปราะบาง(อายุ 70 ปีขึ้นไป) อย่างพวกเราทั้งหลายหนุ่มๆสาวๆ ที่ดูไบมีระบบการตรวจ พอตรวจพบบวก ให้โทรศัพท์อยู่บ้านไม่ให้ไปไหนให้อยู่บ้านรักษาตัว ยกเว้นพวกเปราะบาง แล้วกินวิตามินซี ไม่ให้ติดพี่ติดน้อง ติดพ่อติดแม่ หลายคนหายเอง ถ้าให้อำนาจในการคิด ตัดสินใจ ให้ความรู้อย่างถูกต้อง การป้องกันดีกว่าการควบคุม ที่นี่ดูไบ 1 วัน 900 กว่าราย ตายทั้งหมดจนถึงเดี๋ยวนี้ประมาณ 600 กว่าคน แต่เขาเปิดประเทศ เพราะเขาหากินกับการท่องเที่ยว วิธีการของแต่ละประเทศไม่เหมือน วิธีการป้องกันคือเปิดเศรษฐกิจ แต่วิธีควบคุมคือปิดเศรษฐกิจ”
.
ดร.ทักษิณ ย้ำถึงคนไทยว่าอย่าไปตกใจมาก วิธีการอยู่ทัศนคติ วิธีการทำงาน อยากจะเป็นลักษณะควบคุมหรือป้องกัน คือ ควบคุม เชื้อโรคมันสั่งไม่ได้ มันไปได้ทุกที่ มันไปได้ทุกเวลา มันสั่งไม่ได้ แต่คนที่เชื้อโรคมาติด ถ้าให้ความรู้ดีๆ เขาจะไม่ตกใจ เขาจะเข้าใจและป้องกันตัวเองได้ เราตกใจ โลกทั้งโลกตกใจ เพราะตอนแรกที่ระบาดหลังอู่ฮั่น แล้วมาอิตาลีไปเมืองคนแก่
.
ดร.ทักษิณระบุว่า ตนอยากเห็นประเทศไทยใช้ระบบป้องกันให้ความรู้ประชาชนชัดเจนอย่าตกใจ อย่ากลัว ป้องกัน การ์ดอย่าตก ส่วนตัวเป็นโควิด-19 เพราะอายุ 70 ปี ไปเดินเล่นชอปปิง การ์ดตก ไม่ได้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ ใส่หน้ากากจริงอยู่ แต่เวลาไปกินอาหาร ไม่รู้เราเลอะเทอะที่ไหนอย่างไร เรากินไก่ทอด เอามือกินเข้าปาก ก่อนใช้มือต้องฉีดแอลกอฮอล์ไม่ได้พก
.
เมื่อถามถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่โควิดระบาดหนักนั้น ดร.ทักษิณ ระบุว่าต้องหาความพอดีระหว่างความเป็นอยู่ประชาชนกับการป้องกันโรค อยู่ที่วิธีคิดแต่ละรัฐบาล ถ้าดูภายนอก อยากเห็นเศรษฐกิจดีกว่านี้ อยากให้ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ ภาษาอเมริกัน ได้เช็คเดือนนี้ อาทิตย์นี้ใช้หมด อาทิตย์หน้าเช็คออกก็ใช้ต่ออีก แต่ของเราหาเช้ากินค่ำ ต้องให้ตลาดเปิด มีบรรยากาศตรงนี้ จะมีการฆ่าตัวตายอีก ดังนั้น ต้องสมดุลระหว่างเศรษฐกิจกับการป้องกัน ไม่ใช่ควบคุม ควบคุมเอาไม่อยู่ เชื้อโรคมันไม่เชื่อง ต้องใช้กำลังคนเยอะ ใช้เศรษฐกิจที่ปิด ใช้เงินจำนวนมาก แต่ป้องกันใช้น้อยกว่าเยอะ
.
“เรามีปัญหาเชิงโครงสร้างหลายตัว เนื่องจากหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนสูงขึ้้น การกระจายรายได้ไม่ดีพอ อัตราช่องว่างระหว่างคนจน คนรวยสูงขึ้น คนจนมากขึ้น ตัวเดียวคือโอกาส โอกาสสำหรับคนระดับล่างไม่ดีพอ ต้องสร้างโอกาสให้คนระดับล่างเยอะๆ คนระดับล่างเป็นเกษตรกรเยอะ ดังนั้น ต้องดูแลการเกษตร ดูแลเรื่องอุตสาหกรรมรายย่อย และขนาดกลาง ซึ่งจะเพิ่มรายได้ ระบบการศึกษาของไทยล้าหลัง ดังนั้น โครงสร้างเศรษฐกิจเราต้องยกเครื่อง เพราะเป็นโครงสร้างโบราณ ระบบอนาล็อก หรือก่อนอนาล็อก ดังนั้นต้องปรับโครงสร้างโดยด่วน ตั้งแต่ระบบการศึกษา การผลิต ระบบแรงงาน การสอนคนแรงงาน”
.
ดร.ทักษิณ ย้ำว่า “วันนี้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเร็วกินปลาช้า มันเป็นระบบทุนนิยมธรรมดาหนีไม่พ้น ชอบ ไม่ชอบ ต้องเรียนรู้อยู่กับมัน วันนี้ต่างประเทศยื่นแขนขาผ่านแพลตฟอร์มตัวเดียว มาหากินข้ามมาถึงบ้านเรา ล้วงข้อมูลล้วงเงินไป ถ้ารู้ไม่เท่าทันก็โดนกินฟรี ปลาใหญ่ในกรุงก็กินปลาเล็กในต่างจังหวัด ทำอย่างไรให้คนข้างล่างแข็งแรง”
.
“วันนี้ประเทศไทยระบบเรื่องของเราต้องรู่เท่าทันทุนนิยมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทุนนิยม เอาระบบการศึกษาดักจัดการล่วงหน้า จีนมีความใหญ่ รู้แพลตฟอร์มอเมริกากำลังจะเข้ามาปิดบล็อก ทำแพลตฟอร์มของตัวเอง และใหญ่กว่าของอเมริกาทำ วันนี้เศรษฐกิจจีนเป็นอันดับ 2 ของโลก อีก 8 ปี จีนจะแซงสหรัฐฯเป็นอันดับ 1 ของโลก เขาเอาคนฉลาดในต่างประเทศกลับมาอยู่กับจีน” ดร.ทักษิณ ระบุ
.
เมื่อถามว่าขอให้ฝากถึงคนไทยที่กำลังเผชิญปัญหาจากโควิดและต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ดร.ทักษิณ ระบุว่า โควิดอย่าตกใจ แต่อย่าการ์ดตก ใส่หน้ากากล้างมือเป็นประจำ มีระบบความสะอาดเป็นประจำแล้วก็คนที่เป็นพวกเปราะบาง คนอายุ 70 ปีขึ้นไป มีโรคหัวใจ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ ถ้าอยู่บ้านได้อยู่บ้าน ไปไหนให้น้อยที่สุด ถ้าการ์ดไม่ตก อย่าไปกลัวมัน เวลาเป็นอะไร โควิดอัตราการตายต่ำกว่าที่คิด คนตายคือพวกเปราะบาง พวกคนหนุ่ม คนสาวพอเป็น เพิ่มภูมิคุ้มกันกินวิตามินซี ซัดแร่สังกะสี พวกนี้เป็นตัวเพิ่มภูมิคุ้มกัน พอภูมิคุ้มกันถึงไวรัสตัวนี้จะหาย อย่าตกใจ แต่อย่าประมาท คนหนุ่มคนสาวฟิตร่างกายให้แข็งแรง การ์ดอย่าตก ไม่ต้องตกใจทำมาหากิน
.
“การทำมาหากินจะยากขึ้น เพราะว่าโลกหยุดชะงักหมด ทุกประเทศจะเห็นแก่ตัว การส่งออกจะลำบากขึ้น เศรษฐกิจในประเทศจึงเป็นหัวใจสำคัญ ท่องเที่ยวหัวใจสำคัญ ที่จะต้องเอาจริงจัง คนทำมาหากินในอดีตที่ไปไม่รอดจากโรคระบาดครั้งนี้ ต้องรีบปรับตัว หาสิ่งที่ดีขึ้น พวกที่ถูกทางต้องรีบลุยต่อไป เพราะโลกกำลังเปลี่ยนไป”
.
ช่วงท้าย ดร.ทักษิณ อวยพรปีใหม่ 2564 ถึงคนไทยด้วยว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ยังคิดว่า ผมยังมีคุณค่ากับประเทศอยู่ ผมอยากฝากปีใหม่นี้ เป็นปีที่หนักหน่อยนะ เพราะว่าโลกทั้งโลกระบมกับโควิด ถึงแม้จะมีวัคซีน คนทั้ง 100% ก็ไม่ได้ฉีดวัคซีนหมด บางประเทศไม่สามารถช่วยตัวเองด้วยการให้วัคซีนฟรีกับประชาชนได้ ทางจิตวิทยามวลชนจะทำให้เบาบางลงได้ แต่ไม่รู้เบาบางแค่ไหน ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ”
.
“อยากบอกทุกคนอย่าประมาท อยู่ให้แข็งแรง อยู่ให้ปลอดภัย หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารถูกสุขลักษณะ อย่าประมาท อย่าการ์ดตก รีบทำมาหากิน พยายามเรียนรู้ ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ระบบการศึกษาทั่วไป เรียนรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองปรับตัวทำมาหากินได้ได้ ความอดทน ความพยายามเท่านั้นที่จะทำให้ท่านสำเร็จในโลกใหม่หลังโรคระบาด ขอให้คนไทยที่ผมรัก คิดถึงและเคารพ มีโอกาสพบสิ่งดีๆ และปัจจัยที่ตัวเองทำมาหากินได้ในโลกยุคใหม่ อยู่รอดกับมันได้ ขอให้ทุกคนแข็งแรงปลอดภัย เอาชนะทางเศรษฐกิจให้ได้ทุกคน”
.