วันนี้ สำนักข่าวต่างประทศรายงานว่า สหราชอาณาจักรรายงานพบผู้เสียชีวิตภายใน 28 วัน หลังมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก เพิ่มถึง 146 คนในวันอังคาร (10 ส.ค.) ถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ผลจากเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเดือนที่แล้ว ในขณะที่อังกฤษยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเกือบทั้งหมดในวันที่ 19 กรกฎาคม
.
แม้จำนวนเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสหราชอาณาจักรในอังคาร (10 ส.ค.) ลดลงเหลือ 23,510 ราย จากระดับ 25,161 คนเมื่อวันจันทร์ (9 ส.ค.) ไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากระดับพีกสุดจำนวน 54,674 คนในวันที่ 17 กรกฎาคม หรือไม่นานก่อนที่อังกฤษจะยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเกือบทั้งหมด
.
อย่างไรก็ตาม หากดูในภาพรวม พบว่า เคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยมีชาวสหราชอาณาจักรมากถึง 196,047 รายติดเชื้อโควิด-19 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น 7%
.
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เดินหน้าผ่อนปรนข้อจำกัดต่าง ๆ ในอังกฤษ สืบเนื่องจากการฉีดวัคซีนในวงกว้าง ซึ่งเขาเชื่อมั่นมันช่วยทลายความเชื่อมโยงระหว่างการติดเชื้อ กับจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตหลังจากนั้น
.
เวลานี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรแล้ว 3 ใน 4 ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส และมีราว 89% ที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส
.
สหราชอาณาจักรมียอดสะสมผู้เสียชีวิตหลังมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกภายใน 28 วัน อยู่ที่ 130,503 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของยุโรปรองจากรัสเซีย และเป็นหนึ่งชาติที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในโลก
.
แม้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน แต่จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการแพร่ระบาดระลอกปัจจุบัน ถือว่าน้อยลงอย่างมากจากระลอกที่ผ่านๆ มา
.
ในช่วง 7 วันหลังสุดพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รวมกัน 622 ราย เพิ่มขึ้นจาก 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ 15% แต่ครั้งหนึ่งเมื่อช่วงต้นปี สหราชอาณาจักรเคยมีค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายสัปดาห์สูงกว่า 8,000 คนเลยทีเดียว