อัจฉริยะ’ ระบุรอฟังอัยการนนทบุรี สั่งคดีแตงโมพรุ่งนี้ เผย ตอนนี้ถูกตำรวจฟ้องทั้งหมด 5 คดี ได้รับหมายเรียกมา 3 คดี ยังไม่ได้รับหมายอีก 2 คดี
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีแตงโมก่อนที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีจะนัดฟังคำสั่งคดีในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค. 65) ว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเองได้ไปติดตามเรื่องหนังสือยื่นขอความเป็นธรรมที่อธิบดีอัยการภาค 1 อัยการระบุว่า สำนวนยังส่งมาไม่ถึง จึงไม่ทราบว่าสำนวนมาถึงท่านหรือยัง แต่ถ้ามาถึงแล้วก็จะติดปัญหาว่าเขามีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ของ 2 คนบนเรือหรือไม่ ถ้า 2 คนบนเรือไม่ให้ตรวจก็ไม่แน่ใจว่าอัยการจะสั่งฟ้องได้หรือไม่ตามที่อัยการจังหวัดนนทบุรี ได้ระบุไว้ว่าจะไม่มีการเลื่อนสั่งคดีอีกแล้ว
ประเด็นตรงนี้ ก็ขึ้นอยู่กับอธิบดีอัยการภาค 1 ว่าตัดสินใจอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะก้าวล่วงได้ และไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะเลื่อนสั่งคดีไปอีกหรือไม่
ประเด็นโทรศัพท์มือถือถือ เป็นส่วนสำคัญทางคดี ที่จะทำให้สามารถบอกได้ว่าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เกิดอะไรขึ้น ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ส่วนข้ออ้างของคนบนเรือที่ระบุว่าระยะเวลาผ่านมานานแล้วตอนนี้มีแต่เรื่องส่วนตัว มองว่าน่าจะเป็นเรื่องสำคัญทางคดีเพราะจะยิ่งทำให้รู้ว่ามีการคุยอะไรกันเกี่ยวกับเรื่องคดีบ้างหลังเกิดเรื่อง คิดว่าถ้าไม่มีอะไรทำไมไม่ให้ตรวจมือถือ จะมาอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะเป็นการขัดคำสั่งของพนักงานอัยการ ทั้งนี้ก็อยู่ที่ตำรวจว่าหากอัยการสั่งมาอีกรอบ แต่ผู้ต้องหาขัดขืนไม่ยอมทำตาม ตำรวจจะทำยังไงและอัยการจะทำอย่างไร
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะแสดงความเห็นในประเด็น ของคนบนเรือไปยื่นขอให้ตรวจสอบเรื่องการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ว่าหลังจากที่ตนเองในฐานะที่เคยได้รับมอบอำนาจจาก แม่แตงโม ไปยื่นฟ้องคดีเองที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับคดีฆาตกรรม ดังนั้นอำนาจในการดำเนินการสืบสวนสอบสวน หลังจากที่แม่ไปถอนคดี ก็ไม่มีใครสามารถที่จะไปฟ้องคดีนี้ได้อีก ดังนั้นการที่กระทรวงยุติธรรมลงมารับเรื่องจากคนบนเรือทั้งสองคนเป็นเรื่องที่แปลกเพราะจริงๆ แล้วผู้เสียหายคือกรรมการสิทธิ์ในชุดที่มีคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และนายสมชาย แสวงการ ที่รับผ้าขาวมาจากบังแจ็ค
พร้อมกันนี้ นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่าหลังจากที่หมดหน้าที่เกี่ยวกับคดีแตงโมแล้ว ก็มีผลพวงจากคดีดังกล่าวคือ ถูกตำรวจฟ้องทั้งหมด 5 คดีโดยได้รับหมายเรียกมา 3 คดี ส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับหมายอีก 2 คดี ยังไม่รู้ว่าจะออกหมายเรียกอีกเมื่อไหร่ ตอนนี้ได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้คุณหมอธวัชชัย เป็นผู้เปิดเผยข้อเท็จจริงให้กับประชาชนทั้งประเทศ ตอนนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการที่ไปพิสูจน์ว่าคนบนเรือทำอะไร แต่เป็นการพิสูจน์ว่า เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างไร
ส่วนกรณีที่คนบนเรือระบุว่าหลังจากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วจะเดินหน้าฟ้องบุคคลที่ทำให้เสียหายนั้น นายอัจฉริยะบอกว่าตอนนี้ก็ตั้งตารออยู่ หากฟ้องมาก็จะได้รู้ว่าคดีประมาทที่ตำรวจทำที่มีธงกันอยู่