นายเข็มชัย ชุติวงษ์ อัยการสูงสุดคนใหม่ ได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนภายหลังเข้ารับตำแหน่งอัยการสูงสุด โดยมีนโยบายพัฒนาบุคลากรในองค์กรสำนักงานอัยการสูงสุดเน้นหลักเป็นทั้งคนเก่งและคนดี สั่งคดีอย่างเป็นธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต มีจริยธรรม คุณธรรม ตามพยานหลักฐานที่สมบูรณ์ที่สุด โดยจะฟ้องคนทำผิดไม่ฟ้องคนที่บริสุทธิ์ เน้นพยานหลักฐานว่าที่เพียงพอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
ตรงประเด็น – พร้อมกันนี้นายเข็มชัยมีความเห็นถึงกรณีการบังคับใช้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฉบับใหม่ที่เพิ่งบังคับใช้ว่าจะส่งผลกระทบต่อคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำหน่ายคดีในส่วนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เดินทางมาศาล และถูกออกหมายจับ รวมถึงคดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต หรือไม่นั้น ว่าคดีดังกล่าวเป็นการยื่นฟ้องคดีในกฎหมายเก่าปี พ.ศ.2542 (พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542) ที่เดิมไม่สามารถที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังโดยที่ไม่มีตัวจำเลยได้แต่กฎหมายใหม่ที่เพิ่งออกมา พ.ศ.2560 มาตรา 28 ให้ศาลสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลย หรือพิจารณาคดีลับหลัง ดังนั้นจึงเป็นการคาบเกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ แต่ในบทเฉพาะกาล มาตรา 69 ของกฎหมายใหม่ได้ระบุไว้ว่าการดำเนินการใดที่เกิดขึ้นมาโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายเก่าแล้วนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ให้พิจารณาต่อไปตามกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ ดังนั้นความเห็นส่วนตัวจึงเห็นว่าคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องของวิธีพิจารณาจะสามารถรื้อฟื้นกลับมาพิจารณาใหม่ได้
นายเข็มชัยกล่าวว่า ส่วนขั้นตอนต่อไปจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้โดยให้อธิบดีสำนักงานคดีพิเศษซึ่งเดิมเคยเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบคดีเป็นผู้เสนอรายชื่อคณะทำงานที่เหมาะสมขึ้นมา และยังไม่มีการกำหนดระยะเวลา ก่อนยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯนักการเมืองขอให้นำคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ ซึ่งหากศาลฎีกาฯนักการเมืองเห็นตรงกันในการบังคับใช้กฎหมายส่วนนี้ก็สามารถคดีก็สามารถดำเนินการต่อได้ แต่ส่วนที่ประธานคณะกรรมมาธิการซึ่งเป็นผู้แทนจากสำนักงานศาลยุติธรรมเคยมีความเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาคดีลับหลังในชั้นของก่อนออกกฎหมายมาบังคับใช้โดยเห็นว่าการพิจารณาลับหลังจำเลย อาจไม่เป็นธรรมนั้นตนเห็นว่า ขึ้นอยู่กับการตีความของบุคคล เเต่เมื่อมีกฎหมายออกมาบังคับใช้ต้องปฎิบัติตาม เเต่ก็จะต้องดูต่อไปว่าหากอัยการยื่นไปเเล้วศาลจะพิจารณาอย่างไร
เมื่อถามว่ายังเหลือคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องนายทักษิณเอง เช่นคดีปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกเอ็กซิมแบงค์ให้กับรัฐบาลเมียนมาเพื่อทำสัญญากิจการโทรคมนาคม และคดีทุจริตโครงการออกสลากหวยบนดินนั้นจะใช้หลักปฎิบัติเดียวกันที่ ป.ป.ช. จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลหรือไม่ นายเข็มชัยกล่าวว่า กรณีตัวอย่างที่อัยการจะเป็นผู้ยื่นฟ้องและจะมีการตั้งกรรมการยื่นฟ้องคดีนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตนที่เห็นว่าสามารถยื่นคำร้องต่อศาลได้ แต่ใน คดีที่อยู่ในส่วนของ ป.ป.ช. จะต้องเป็นผู้พิจารณาเอง
ส่วนคดีที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เคยรวบรวมหลักฐานคดีที่นายทักษิณ หมิ่นสถาบันเบื้องสูง และความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ปี 2858 ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายนอกราชอาณาจักรนั้น ขณะนี้คดีดังกล่าวอัยการสูงสุดได้มีความเห็นแล้วโดยอัยการสูงสุด ในขณะนั้น (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร) ได้มีการทำความสมควรสั่งฟ้อง
ภายหลังจากที่อัยการสูงสุดโดยนายตระกูล วินิจนัยภาค ได้เคยตั้งอัยการสำนักสอบสวนร่วมสอบ ปอท. ไว้ก่อนหน้านี้ จากนี้เมื่อมีคำสั่งสมควรสั่งฟ้องแล้วก็เหลือเพียงกระบวนการติดตามตัวโดยประสาน ปอท. ให้ดำเนินการออกหมายจับหากทราบแหล่งที่อยู่ชัดเจนก็จะต้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนทันทีเพื่อดำเนินกระบวนการฟ้องคดี ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญาทั่วไปไม่ใช่คดีทุจริต ที่อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯนักการเมืองการฟ้องจะต้องมีตัวจำเลยยื่นต่อศาล
นายเข็มชัยยอมรับว่ามีความกังวลเกี่ยวกับกระแสสังคมที่มีหลายฝ่ายมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากมีการออกกฎหมายมาแล้ว หากไม่ดำเนินการก็จะถูกวิจารณ์จากอีกฝ่ายว่าไม่บังคับใช้กฎหมาย แต่เมื่อเรื่องถึงขั้นตอนศาลแล้วศาลจะจะเห็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนการขอสถานะลี้ภัยของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องคดีจำนำข้าวและศาลฎีกาฯ นักการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปีนั้น นายเข็มชัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะขอสถานะลี้ภัยที่ประเทศใด ซึ่งการขอลี้ภัยเป็นเรื่องที่ประเทศนั้นๆ จะต้องเป็นผู้พิจารณาไปตามกฎหมายประเทศ ซึ่งอัยการไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับส่วนนี้ โดยการลี้ภัยจะต้องถามจากกระทรวงการต่างประเทศ แต่ในส่วนกระบวนการของไทยที่จะทำได้คือต้องติดตามตัวจำเลยถึงแม้นางสาวยิ่งลักษณ์ จะได้รับสถานะลี้ภัยในประเทศใดอัยการก็จะต้องยื่นขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากเป็นคนละประเด็นกัน
โดยการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต้องทราบแหล่งที่อยู่ที่ชัดเจนก่อน ถึงจะพิจารณาในส่วนกฎหมายของแต่ละประเทศได้ แต่สุดท้ายการพิจารณาก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของฝ่ายบริหารในประเทศนั้นด้วยว่าจะให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แม้ตามหลักสากลจะไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามความผิดทางการเมือง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการตีความว่าความผิดทางการเมืองครอบคลุมแค่ไหน แต่หากประเทศใดมีการขอรายละเอียดคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ เราก็จะต้องยืนยันว่าคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นคดีทุจริต ไม่ใช่คดีความผิดทางการเมือง
นายเข็มชัยเข้ารับตำแหน่งอัยการสูงสุด เป็นคนที่ 14 เตรียมจะแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักข่าววิหคนิวส์