วันนี้ นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฏร 2563 โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กระบุ
.
ภารกิจของฝ่ายขวาคือ ราษฎรต้องทำลาย และขยายอนุรักษนิยม
…
1. ราษฎรต้องทำลาย :
.
เราได้กระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อปีที่แล้วว่าขบวนเราเติบโต และแหลมคมมาก ๆ มากจนฝ่ายขวาไม่สามารถปราบปรามได้ แต่นั่นเพราะเขายังตั้งตัวไม่ติดต่างหาก พวกเขาไม่คิดว่าจะมีคลื่นใต้น้ำที่มากมาย และรุนแรงขนาดนี้ พวกเขาประมาทเพราะพวกเขาเชื่อว่าพวกเขามีเครื่องมืออย่างเพรียกพร้อม ไม่น่าจะมีใครกล้าลุกขึ้นต่อกร ปีที่แล้วพวกเราทำให้เขาตระหนก และแตกตื่นในคลื่นของราษฎร และข้อเสนอที่ทิ่มแทงพวกเขา
.
ทว่าตอนนี้พวกเขาผ่านมันมาได้แล้ว และตั้งตัวได้แล้ว ตอนนี้เขามีการแบ่งสายที่ทำลายพวกเราอย่างชัดเจนทั้งในโลกโซเชียลที่เต็มไปด้วยไอโอรวมทั้งสื่อจำนวนหนึ่ง ซึ่งพร้อมจะเป็นมือเป็นตีนในการจัดการพวกเรา ส่วนในโลกจริงพวกเขามีเจ้าหน้าที่รัฐที่พร้อมจะยัดคดี และกระทำความรุนแรงกับพวกเรา มาตรการหนึ่ง ซึ่งชัดเจนมากคือ การยั่วยุให้พวกเราด้วยความรุนแรงเพื่อหวังให้พวกเราใช้ความรุนแรงกลับ รวมทั้งการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำร้ายพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เริ่มมีการจัดตั้งมวลชนเพื่อมาก่อกวน และทำร้ายร่างกายพวกเราแล้ว
.
ปีนี้จึงเป็นปีที่หนักหน่วงของราษฎร ถ้าต้านทานไหว และยืนหยัดได้ เราจึงมีโอกาสชนะ ถ้าเพลี่ยงพล้ำก็หมายถึงการเสียเสรีภาพหรือมากกว่านั้นก็คือ “ความตาย”
…
2. ขยายอนุรักษนิยม :
.
ปีนี้พวกเขาตั้งตัวได้แล้ว และแบ่งหน้าที่กันแล้ว ปรากฎการณ์แรกที่พวกเขาทำคือ การทำลายราษฎร และป้ายสีให้พวกเราเป็นพวกคนพาล ไร้เหตุผล ชอบใช้ความรุนแรง ไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ ไร้กาลเทศะ ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดิน ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งก็เพื่อขยายแนวร่วม ดึงเอาคนกลาง ๆ ซึ่งยังไม่มีข้อมูลเพียงพอรับสื่อจากรัฐให้เห็นด้วย และคล้อยตามกับพวกเขาด้วยเครื่องมือที่พวกเขามีทั้งหมด เช่น การแทรกซึมปั่นสมองไปในระบบการศึกษา และระบบราชการ การสร้างข้อมูลชวนเชื่อปล่อยไปในโซเชี่ยล รวมทั้งการให้ชนชั้นนำเดินสายหาเสียงสนับสนุนใส่ร้ายกลุ่มราษฎร
.
สื่อ คืออีกเครื่องมือในการขยายแนวร่วมของพวกเขา นอกจากการทำลายสื่อที่เป็นกลางแล้วเขายังเพิ่มสื่อที่ป้อนข้อมูลด้านเดียวเพื่อปั่นกระแสคลั่งชาติ คลั่งเจ้า และใส่ร้ายป้ายสีขบวนราษฎร การสร้างมวลชนอาสาคืออีกงานหนึ่งซึ่งอันตรายมาก พวกเขามีการทำงานขยายจำนวนอย่างเป็นระบบ และเพิ่มจำนวนอย่างน่ากลัว
.
การต่อสู้ครั้งนี้แม้มีคนบอกว่ายังไงฝ่ายประชาธิปไตยชนะแน่ แต่ต้องบอกว่าไม่ง่าย เพราะพวกเขาไม่มีทางประนีประนอม แพ้คือราบคาบ ชนะคือเต็มใบ
.
ด้วยยุทธศาสตร์ทั้งสองของพวกเขา ขบวนเราซึ่งมีความหลากหลายมาก ๆ จึงมีโจทย์ที่ต้องแก้ร่วมกัน รุกรับต้องประสาน ผ่อนหนักผ่อนเบา รู้เข้าตีรู้ล่าถอย ซุ่มซ่อนรอจังหวะ
=======
ปีนี้อาจเป็นปีสุกดิบกระทั่งอาจเป็นปีชี้ชะตาของเขา และเรา
.
เชื่อมั่น และศรัทธา
.
อานนท์ นำภา
4 กุมภาพันธ์ 2564
——————————-