28 พ.ค. 61 – ที่ห้องพิจารณาคดี 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.968/2561 พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กับพวกรวม 10 คน มายื่นฟ้องเป็นจำเลย กรณีกลุ่ม นปช.จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยปราศรัยปลุกระดมยุยง ณ เวทีบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ข้างทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ, ยึดและเผารถโดยสารประจำทางในพื้นที่ กทม. และนำรถบรรทุกแก๊สไปจอดไว้กลางถนนเพื่อข่มขู่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และประชาชนเดือดร้อนเสียหาย โดยกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เหตุเกิดที่แขวง-เขตดุสิต, แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี, แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร และแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-14 เม.ย. 2552
ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 3 ข้อหา โดยอัยการได้แยกข้อหาฟ้องจำเลยแต่ละคนดังนี้ นายวีระกานต์ อายุ 70 ปี อดีตประธาน นปช.จำเลยที่ 1, นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 53 ปี ประธาน นปช. จำเลยที่ 2 และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 43 ปี แกนนำ นปช. จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันชุมนุม ณ ที่ใดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 67 ปี แกนนำ นปช. จำเลยที่ 4, นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง อายุ 59 ปี แกนนำคนเสื้อแดง จ.สกลนคร จำเลยที่ 5, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 67 ปี แกนนำ นปช. จำเลยที่ 7, นายพิพัฒน์ชัย หรือสมชาย ไพบูลย์ อายุ 49 ปี แนวร่วม นปช. จำเลยที่ 8 และนายพายัพ ปั้นเกตุ อายุ 59 ปี แนวร่วม นปช. จำเลยที่ 9 ถูกยื่นฟ้อง 3 ข้อหา ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป นายณรงศักดิ์ มณี อายุ 52 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 6 ถูกยื่นฟ้องข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และนายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง อายุ 60 ปี แนวร่วม นปช.จำเลยที่ 10 ถูกยื่นฟ้อง 2 ข้อหา ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215
โดยวันนี้นายวีระกานต์ จำเลยที่ 1, นายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 3, นพ.เหวง จำเลยที่ 4 ซึ่งได้ประกันตัวระหว่างสู้คดีเดินทางมาศาล มีเพียงนายจตุพร จำเลยที่ 2 ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวมาร่วมกระบวนพิจารณาเช่นกัน
เมื่อถึงเวลานัด อัยการโจทก์แถลงได้เตรียมพยานเอกสารรวมจำนวน 143 ฉบับ และพยานบุคคลที่จะนำสืบจำนวน 134 ปาก ส่วนฝ่ายจำเลยแถลงประสงค์จะนำพยานเข้าสืบจำนวน 120 ปาก ต่อมา นายจตุพรได้เป็นตัวแทนจำเลยทั้ง 10 คน แถลงต่อศาลว่า อยากจะขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน เนื่องจากคดีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานแล้วตั้งแต่ปี 2552 แต่อัยการเพิ่งฟ้องคดีเข้ามา จำเลยทั้ง 10 คน และทนายความจึงขอเวลาในการจัดเตรียมพยานหลักฐานไว้ต่อสู้คดี
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้โอกาสจำเลยได้ต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรมและให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานไปเป็นวันที่ 31 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับให้อัยการโจทก์และฝ่ายจำเลย ไปดำเนินการจัดแบ่งกลุ่มพยานบุคคลไว้ให้เรียบร้อยและระบุเวลาที่จะใช้ในการสืบพยาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ภรรยาและลูกชายรวมทั้งบุคคลใกล้ชิดเกือบ 20 ราย ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายจตุพร รวมทั้งได้พูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ของนายจตุพร ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ ซึ่งนายจตุพรมีใบหน้าท่าทางยิ้มแย้ม แต่น้ำหนักลดลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนายณัฐวุฒิ, นายวีระกานต์ และนพ.เหวง ต่างทักทายพูดคุยกับนายจตุพรเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ นพ.เหวง เดินทางมาศาลพร้อมกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ ภรรยาและประธานที่ปรึกษา นปช. ด้วยรถตู้สีขาว.
สำนักข่าววิหคนิวส์