กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายนว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 386,452 คน และมีผู้เสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกัน 3,498 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินเดียมีมากกว่า 18.76 ล้านคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 208,000 คนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนเชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงของประเทศเอเชียใต้ที่มีประชากร 1,300 ล้านคนแห่งนี้ น่าจะมากกว่าตัวเลขของทางการ 5-10 เท่า
การระบาดของโควิด-19 รอบที่สองวิกฤติกว่าครั้งแรกมาก รอยเตอร์กล่าวว่า นับแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 7.7 ล้านคน เปรียบเทียบกับยอด 7.7 ล้านคนก่อนหน้านี้ที่ใช้เวลาเกือบ 6 เดือน
นอกจากโรงพยาบาลที่ขาดแคลนเตียงและเวชภัณฑ์รวมถึงออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยแล้ว แม้แต่สถานที่เผาศพยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะที่กรุงนิวเดลีที่สถานการณ์รุนแรงที่สุด เมื่อวันศุกร์มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีกเกือบ 400 คน บีบีซีอ้างคำกล่าวของนายตำรวจอาวุโสคนหนึ่งที่บอกกับเอ็นดีทีวีว่า ประชาชนต้องเผาศพคนในครอบครัวบนเชิงตะกอนที่ไม่ได้จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด นี่คือเหตุผลที่ทางการควรต้องจัดหาฌาปนสถานเพิ่มเติม
นอกจากนี้ หลายรัฐเริ่มรายงานว่าวัคซีนในสต็อกไม่เพียงพอ ทั้งที่อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สุดในโลก และรัฐบาลของนายกฯ นเรนทรา โมดี ที่โดนตำหนิรุนแรงเรื่องความล้มเหลวในการรับมือ รวมถึงการเดินหน้าหาเสียงและจัดเลือกตั้งระดับรัฐต่อไป วางแผนว่าจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ทุกคนในประเทศที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ก็ตาม
นครมุมไบที่มีประชากรมากกว่า 20 ล้านคนสั่งปิดศูนย์ฉีดวัคซีนทุกแห่งนาน 3 วัน เพราะขาดแคลนวัคซีน และจำเป็นต้องสำรองวัคซีนไว้สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 45 ปี
ความช่วยเหลือจากทั่วโลกกำลังหลั่งไหลมาที่อินเดีย โดยเที่ยวบินแรกของสหรัฐที่นำถังออกซิเจน 1,000 ใบ, ชุดตรวจเชื้อแบบด่วน 1 ล้านชุด, หน้ากากเอ็น95 จำนวน 15 ล้านชิ้น และเครื่องตรวจวัดออกซิเจน มาถึงกรุงเดลีแล้วในวันศุกร์ ส่วนความช่วยเหลือจากอังกฤษมาถึงเป็นเที่ยวที่ 3 แล้วในวันเดียวกัน และของโรมาเนียและไอร์แลนด์ส่งมาถึงเมื่อคืนวันพฤหัสบดี.