Indonesia: สมาชิกสหภาพแรงงานอินโดนีเซียและกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน รวมตัวชุมนุมประท้วงในกรุงจาการ์ตาและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันจากที่เคยได้รับการอุดหนุน
แกนนำสหพันธ์สหภาพแรงงานอินโดนีเซียแถลงว่า สมาชิกสหภาพแรงงานมากถึง 5,000 คน พร้อมด้วยกลุ่มผู้ประท้วงภาคส่วนอื่น ๆ ออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงในกรุงจาการ์ตา และอีกหลายพันคนร่วมชุมนุมในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันจากที่เคยได้รับการอุดหนุน รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลเพิกถอนการตัดสินใจที่ทำให้คนทำงาน เกษตรกร ชาวประมง และคนยากจนในเขตเมืองได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด
ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย สั่งการก่อนหน้านี้ ให้ทางการท้องถิ่นรักษาความสงบเรียบร้อยด้วยการพยายามอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ทางการต้องขึ้นราคาเชื้อเพลิง ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยว่า กำลังตำรวจกว่า 7,200 นายได้ประจำการทั้งในและรอบกรุงจาการ์ตาเพื่อรับมือการชุมนุมในวันนี้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีรายงานเหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจ
ประธานาธิบดี ‘โจโก วิโดโด’ ของอินโดนีเซีย ประกาศเมื่อวันเสาร์ (3 กันยายน) ว่า จะขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 30% เพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เป็นการขึ้นราคาครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 ไม่กี่เดือนหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งสมัยแรก ซึ่งในตอนนั้นก็นำมาซึ่งการประท้วงทั่วประเทศอยู่นานหลายวัน
ขณะที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังกล่าวเมื่อวันจันทร์ (5 กันยายน) ว่า การอุดหนุนพลังงานของอินโดนีเซีย ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เพิ่มเป็น 3 เท่าในปีนี้ เป็น 502 ล้านล้านรูเปียห์ โดยมีแรงผลักดันจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในตลาดโลก และสกุลเงินรูเปียห์ที่อ่อนค่าลง แต่มาตรการปรับเพิ่มราคาเชื้อเพลิงของรัฐบาล จะช่วยให้งบประมาณอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงในปีนี้ลดลงราว 48 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 117,600 ล้านบาท) เหลือ 650 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 1.59 ล้านล้านบาท) แต่อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงราคาสินค้าจำเป็นอย่างอาหารและค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น จนอาจกระทบต่อความพยายามของรัฐบาล ที่หวังฉุดอัตราเงินเฟ้อให้ไม่เกิน 4% ในปีหน้า
ราคาเชื้อเพลิงถือเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองในอินโดนีเซียที่มีประชากรกว่า 270 ล้านคน รัฐบาลพยายามบรรเทาผลกระทบด้วยการทยอยออกมาตรการชดเชยหลายอย่าง รวมถึงการแจกเงินสดให้ประชาชนโดยตรง
————