ข่าวนี้สื่อรัสเซียลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันที่ 18 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า “อิรัควางแผนส่งบรรดาเมียและลูกๆของกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งไอซิสออกนอกประเทศ
ทางการอิรัคกำลังเตรียมการเพื่อส่งเหล่าภรรยาของกลุ่มก่อการร้ายจีฮาดิสต์ไอซิสจำนวน 500 กว่าคน พร้อมด้วยลูกๆไอซิสอีก 800 กว่าคนกลับประเทศเดิม เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงาน อ้างโดยสำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส
มีรายงานข่าวระบุว่าได้มีการเคลื่อนย้ายกลุ่มครอบครัวของไอซิสจากค่ายผู้ลี้ภัยลับแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองโมซูล ไปยังศูนย์กักกันที่เมือง Tal Kayf จังหวัด Ninawa (Nineveh) ห่างจากเมืองโมซูลไปทางตะวันออกประมาณ 8 ไมล์ (ราว 12.8 กิโลเมตร) ซึ่งดำเนินการโดยองค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศ (ภายใต้การดูแลของยูเอ็น)
สมาชิกสภาเมือง Nineveh คนหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า นายกรัฐมนตรี Haider al-Abadi ได้มีคำสั่งให้ย้ายสมาชิกครอบครัวไอซิสเหล่านี้ไปยังศูนย์ควบคุม “ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการเพื่อส่งพวกเขากลับไปยังประเทศเดิมของพวกเขาก็ได้”
รัฐมนตรีของอิรัคคนหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวฯ ว่า “ผู้หญิงเหล่านั้นเป็นชาวต่างชาติ เข้ามาในประเทศนี้ (อิรัค) โดยผิดกฎหมาย” (the women were “foreigners who entered the country illegally.”)
กลุ่มนี้มีผู้หญิงจำนวน 509 คน เด็กๆ 813 คน ซึ่งเชื่อว่ามาจากประเทศต่างๆ 13 ประเทศทั้งในยุโรป เอเซีย และกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ประมาณ 300 คนจากจำนวนนี้เป็นชาวตุรกี เจ้าหน้าที่กล่าว
สภาผู้ลี้ภัยแห่งนอร์เวย์ (Norwegian Refugee Council – NRC) เป็นหนึ่งในองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บรรดาภรรยาและลูกๆของขบวนการก่อการร้ายไอซิสที่ลักลอบเข้าอิรัคโดยผิดกฎหมายในครั้งนี้ (ซึ่ง NGO ใช้คำว่า “ชาวต่างชาติพลัดถิ่น” (foreign displaced people)) ก่อนที่ทางการอิรัคจะส่งพวกเขาไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผย
“NRC เรียกร้องให้รัฐบาลอิรัคเปิดเผยตำแหน่งที่ชัดเจนของบุคคลเหล่านี้และเหตุผลสำหรับการย้ายที่อยู่ของพวกเขา” แถลงการณ์ของกลุ่ม NGO อุปถัมภ์ไอซิสจากนอร์เวย์กล่าว
Julie Davidson จาก NRC กล่าวว่า “ผู้หญิงและเด็กๆเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงมาก ไม่เกี่ยวกับการที่อาจจะถูกกล่าวหาว่าสมาชิกครอบครัวของพวกเขาเป็นใคร พวกมีสิทธิ์ที่จะได้รับการปกป้องและให้ความช่วยเหลือ”
รัฐมนตรีของอิรัคคนหนึ่งกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า กลุ่มนี้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการดูแลที่ดีกว่าภายใต้การดูแลของกองทัพอิรัคและคณะกรรมการพิเศษ Press TV รายงาน
เมื่อวันศุกร์ Iraqi News รายงานว่า มีผู้หญิงที่เป็นสมาชิกขบวนการก่อการร้ายไอซิสจำนวน 14 คน – ส่วนใหญ่เป็นชาวตุรกี – และเด็กๆที่มาด้วยอีก 16 คน ถูกจับกุมในพื้นที่เมือง Aiyadhiya ใกล้เมือง Tal Afar
เมื่อต้นเดือนนี้ สำนักข่าว RT ของรัสเซียได้เดินทางไปสัมภาษณ์ยังค่ายลับของยูเอ็นที่รับดูแลบรรดาเมียและลูกๆของผู้ก่อการร้ายไอซิสในอิรัค ได้มีการสัมภาษณ์กับผู้หญิงบางคนในค่ายแห่งนั้น แต่ทางยูเอ็นไม่ต้องการให้เปิดเผยที่ตั้ง เป็นครั้งแรกที่มีการเผยแพร่คลิปจากค่ายแห่งนั้น
มีผู้หญิงหลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในตุรกี เอเซียกลาง รัสเซีย (ส่วนใหญ่ไปจากเช็ชเนีย) และยุโรป และลูกๆของพวกไอซิสก็พากันหลบหนีเข้าไปอยู่ในค่ายลับของยูเอ็นหลังกองทัพฝ่ายรัฐบาลอิรัคปลดปล่อยเมือง Tal Afar ได้สำเร็จ
ในการให้สัมภาษณ์กับ RT ผู้หญิงคนหนึ่ง (เมียไอซิส) กล่าวว่า “ผู้หญิงส่วนมากมาที่นี่กับสามีของพวกเธอ พวกเราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้ หรือเพื่อฆ่า พวกเรามาที่นี่เพื่อมีชีวิตอยุ่” (คำสารภาพของอดีตเมียขุนโจรไอซิส)
ปัญหาก็มีอยู่ว่า พวกผู้หญิงเหล่านี้ต้องการที่จะเดินทางกลับบ้านของตนเองในประเทศตนเอง แต่ยูเอ็นไม่อนุญาตให้พวกเขากลับหรือออกไปจากค่ายลับแห่งนั้น “ฉันต้องการจะกลับบ้าน ฉันมาอยู่ที่นี่โดยความบังเอิญ (คงเป็นเมียไอซิสด้วยความบังเอิยด้วยสิ?) จริงๆแล้วฉันต้องการที่จะกลับบ้าน… ช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ด้วย” แม่ม่ายไอซิสคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าว RT พร้อมกับบีบน้ำตาร้องไห้
ที่มา : เพจ ปอกเปลือก ทรราช
https://www.rt.com/news/403743-iraq-deport-isis-wives/
https://www.nrc.no/news/2017/september/nrc-statement-on-the-movement-of-foreign-nationals-from-hamam-al-alil/
https://www.rt.com/news/402847-isis-wives-iraq-camp-un/
https://tribune.com.pk/story/1509947/iraq-set-expel-500-wives-islamic-state-extremists/
https://sputniknews.com/middleeast/201707251055863740-daesh-refugees-coexist/
https://sputniknews.com/middleeast/201707171055622014-daesh-displaced-families-iraq/
สกฤษฏ์ สุวรรณรัตน์
สำนักข่าววิหคนิวส์