จากกรณีสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเห็นชอบการเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัย ด้วยการตัดชื่อราชมงคลออก ทั้งนี้พบว่าศิษย์เก่าจำนวนมากแห่คัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (15 ก.ย.) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า
“สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครมีวาระซ้อนเร้นอะไรหรือไม่ ทำไมจะเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยด้วยการตัดชื่อ “ราชมงคล” อันเป็นนามมงคลที่ได้รับพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งมีหมายความว่า “มหาวิทยาลัยอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา” ออกไป
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ให้วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ที่ได้รับการยกวิทยฐานะขึ้นเป็น “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” ซึ่งมีหมายความว่า “สถาบันเทคโนโลยีอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา”
มหาวิทยาลัยจึงได้ถือเอาวันที่ 15 กันยายนของทุกปีเป็น “วันราชมงคล”
สมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนครและสมาคมศิษย์เก่าช่างกลพระนครเหนือทำหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยพระนคร โดยมีสาระสำคัญคือ ก่อนหน้านี้ สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยพระนคร และจัดทำประชาพิจารณ์ ในระหว่างช่วงเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ๒๕๖๒ ซึ่งในครั้งนั้น ศิษย์เก่าทุกคณะได้ร่วมแสดงความเห็นคัดค้านอย่างกว้างขวาง แต่ต่อมาเรื่องก็เงียบไปโดยไม่ชี้แจ้งว่าจะดำเนินการต่อไปหรือไม่อย่างไร
ในเวลาต่อมาสมาคมฯ ได้รับทราบว่า สภามหาวิทยาลัยฯ ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อขออนุมัติร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยพระนคร (ฉบับ กค.๖๔) ในวันที่ ๒๗ กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะมีการเปลี่ยนชื่อจาก “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร“ เป็น “มหาวิทยาลัยพระนคร”
การตัดชื่อ “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล” ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั้นเป็นการมิบังควร โดยสมาคมศิษย์เก่าอ้างว่า ศ.ดร.สุรพงษ์ โสธนะเสถียร นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาเองโดยไม่ผ่านกรรมการหรือผู้บริหารมหาวิทยาลัย และไม่สนใจต่อความเห็นต่างๆ จากการทำประชาพิจารณ์ ทั้งที่การเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัย โดยทิ้งคำว่า “ราชมงคล” ซึ่งเป็นชื่อพระราชทาน ให้เหลือเพียงชื่อ “มหาวิทยาลัยพระนคร” เป็นเรื่องที่มิบังควร ในขณะที่สภามหาวิทยาลัยก็อ้างว่าได้มีการทำประชาพิจารณ์แล้ว
นอกจากจะมีการเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยแล้ว ยังจะมีการเปลี่ยนชื่อสถานศึกษาเดิมออกทั้งหมด เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ศูนย์พระนครเหนือ) เดิมคือสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเหนือ โดยเมื่อร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ก็เปลี่ยนเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยคงชื่อ “ศูนย์พระนครเหนือ” เอาไว้ ซึ่งทำให้ศิษย์เก่าทุกสาขาประมาณ ๖๐ รุ่นยังมีความเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัย แต่ในร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยพระนครนั้น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร (ศูนย์พระนครเหนือ) จะถูกเปลี่ยนเป็น “วิทยาเขตกรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา”
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนชื่อของ
– ศูนย์เทเวศร์ เป็น วิทยาเขตกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
– ศูนย์พณิชยการพระนคร เป็น วิทยาเขตกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
– ศูนย์พระนครเหนือ เป็น วิทยาเขตกรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา
ซึ่งทางสมาคมศิษย์เก่ากังวลว่าการเปลี่ยนชื่อจะทำให้รากฐานความเป็นมาและความเชื่อมโยงของศิษย์เก่าถึงปัจจุบันขาดหายไป และที่สำคัญคือ สภามหาวิทยาลัยมีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ ทำไมต้องตัดชื่อ “ราชมงคล” อันเป็นนามมงคลที่ได้รับพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งมีหมายความว่า “มหาวิทยาลัยอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา””