จนท.พบมัสยิดร้างจุดประกอบระเบิดก่อนคาร์บอมบิ๊กซีปัตตานี ขณะที่ห้างฯ เร่งซ่อมพื้นที่เปิด16 พ.ค
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุคาร์บอมห้างบิ๊กซี ปัตตานี ในวันนี้ ทางห้างสรรพสินค้าดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหาย โดยมีทีมงานของบิ๊กซี จากกรุงเทพฯ ควบคุมการทำงาน ทั้งนี้ในระหว่างการซ่อมแซมได้มีการปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ ในขณะที่รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ยังคงเหลือจอดอยู่อีก 2-3 คัน รอเจ้าของมาติดต่อรับคืนกลับไปซ่อม
ขณะเดียวกันวันนี้ ทางห้างก็ได้ให้พนักงานเร่งจัดระเบียบวางสินค้าที่ไม่ได้รับความเสียหายให้แล้วเสร็จโดยด่วน โดยเฉพาะบริเวณจุดจำหน่ายสินค้าเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อเร่งเปิดให้บริการภายในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เนื่องจากทางห้างมีพนักงานกว่า 300 คน ที่ขาดรายได้ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพราะห้างต้องหยุดให้บริการชั่วคราวหลายวัน เพื่อเร่งซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหาย ส่วนจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่นั้น คงต้องรอการซ่อมแซมทั้งหมดให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อน รวมถึงเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ขอความร่วมมือทางห้างบิ๊กซี ให้จัดวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อน
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบของห้างบิ๊กซี ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย ทางห้างได้เร่งทำอยู่แล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ก่อนเสนอฝ่ายความมั่นคง เพื่อจะขอเปิดจำหน่ายสินค้าพื้นที่บางส่วนในวันที่ 16 พ.ค.นี้ และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิ.ย.60 ซึ่งในเบื้องต้นทางห้างได้สร้างพื้นที่ทางออกเพิ่ม จากเดิมมีเพียงทางเข้า พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เพียงพอกับพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีมาตรการอื่นอีก ซึ่งเราไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อความปลอดภัยของห้าง เชื่อว่าวันที่ 16 พ.ค.นี้ จะสามารถเปิดให้บริการได้ก่อนชั่วคราว
ส่วนการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่สนธิกำลังและได้แบ่งกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่กบดานของกลุ่มคนร้ายหลายจุด โดยลงพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการพร้อมๆกันทุกจุด ทั้งในพื้นที่ จ.ยะลา อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา ของ จ.สงขลา และ อ.ยะรัง อ.หนองจิก ของ จ.ปัตตานี เพื่อเป็นการกดดันไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบกลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกันในวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลไปยังจุดมัสยิดร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่ระบุว่าเป็นจุดที่คนร้ายนำรถยนต์ไปประกอบวัตถุระเบิดก่อนนำไปวางที่ห้างฯบิ๊กซี
ทั้งนี้จากการซัดทอดของนายซูฮัยมี สมาแอ ที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ นำตัวมาสอบสวนขยายผลเพื่อไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้าย ได้รับสารภาพว่า อยู่ในกลุ่มที่ก่อเหตุด้วย โดยมีผู้มีเกี่ยวข้องอีก 8 คน คือ นายอานุวา กาซอ นายรุสลัน ใบหมัด นายเมาลานา สาเมาะ นายอิสมาแอ มอซู นายบุคคอลี หลำโซะ นายอับดุลอาซิ จะปะกียา นายมะนาเซ ไซดี นายมูฮำมัด กาซอ ซึ่งทั้ง 8 คน มีหมายจับอยู่ เคยก่อเหตุมาหลายคดี ทั้งคดีวางระเบิดหน้ามัสยิดกลางปัตตานี ระเบิดโรงแรมเซาเทิร์นวิว ปัตตานี วางระเบิดร้านเบิ้มในตลาดโต้รุ่งปัตตานี รวมทั้งคดีที่มีการวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนด้วย และก่อเหตุที่ จ.ยะลา จ.นราธิวาส ซึ่งคนร้ายกลุ่มนี้ มีความสำคัญ ที่มักวนเวียนก่อเหตุ มาต่อเนื่อง
ด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า นายนายซูฮัยมี สมาแอ ที่จับกุมโดยใช้ พ.ร.ก.และรับสารภาพเป็นผู้ร่วมในพื้นที่ก่อเหตุนั้น ได้ให้ความร่วมมือดี เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จนสามารถรู้ตัวบุคคลที่ร่วมก่อเหตุปล้นฆ่าเจ้าของรถ เราแบ่งกำลังไล่ล่าผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ พร้อมอยู่ที่ พนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ซึ่ง8 คนมีหมายจับอยู่แล้ว
ส่วนผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่น รวม 2 คน และมีสมาชิก อบต. และชาวบ้านอีก รวมอีก 5 คน ยังควบคุมตัว เพื่อเป้นพยานและขยายผล ในเบื้องต้นจากการซักถามที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป้นเพียงผู้รู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยล้างเลือดของผู้ตาย ที่เป้นเจ้าของรถคาร์บอมบ์ ในที่เกิดเหตุ ที่ โรงเรียนตาดีกา ใกล้กับมัสยิดบ้านเกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเป็นการถูกบังคับ ซึ่งต้องควบคุมตัวอีกสักระยะหนึ่งก่อน
อ.สาริต รายงานจากพัทลุง