เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ‘แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี’ ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง หรือไม่ ต้องส่งศาลฎีกาพิพากษาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่ และจะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามมาตรา 235 วรรคสี่ หรือไม่ กรณีชักชวนให้คณะรัฐมนตรีถ่ายรูปในท่ามินิฮาร์ท ขณะที่กำลังสวมเครื่องแบบชุดปกติขาว บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีประเด็นที่ควรตรวจสอบว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ หรือไม่
โดยข้อ 17 กำหนดไว้ว่า ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง และข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกําลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคำนึงถึง ผลประโยชน์ของชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม
เรืองไกร กล่าวว่า กรณีของ แพทองธาร ที่เป็นทำท่ามินิฮาร์ท และชวน ครม.ทำตาม ในระหว่างการถ่ายภาพร่วมกัน แต่หลังจากมีทีมงานทัก นายกรัฐมนตรียิ้มรับว่า ลืมไปว่าใส่ชุดขาว ซึ่ง ครม. ก็ยกมือทำท่ามินิฮาร์ท ก่อนเอามือลงในเวลารวดเร็ว โดยมีรัฐมนตรีหลายคนทำตาม เช่น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ,สมศักดิ์ เทพสุทิน ,ภูมิธรรม เวชยชัย และมีรัฐมนตรีอีกหลายคนไม่ได้ทำตาม เช่น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีแต่ละคน จึงเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์และสถานที่ดังกล่าว อีกทั้งเมื่อค้นหาคลิปจาก Tiktok จะพบพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ชัดเจนทั้งภาพ และเสียงจำนวนมาก ซึ่งสาธารณชน และประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้โดยง่าย ต่างแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
เรืองไกร กล่าวว่า การที่ แพทองธาร ซึ่งร่วมถ่ายรูปที่ทำเนียบรัฐบาล และเป็นผู้เชิญชวนให้คณะรัฐมนตรีร่วมทำท่ามินิฮาร์ท ขณะใส่เครื่องแบบราชการชุดปกติขาว จึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช.ควรตรวจสอบก่อนว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ส่งผลภาพลักษณ์และกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือความศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี