ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันโดยระบุว่า
.
“ความเลวร้ายที่เกิดขึ้น และต่อเนื่องจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549”
เวลาที่เห็นว่าบ้านเมืองเสียหายยับเยิน เรามักจะตั้งคำถามว่า “เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?” หากจะหาคำตอบโดยถอยหลังไปไม่ไกลนัก คงต้องมองย้อนไปถึงการรัฐประหารเมื่อ 16 ปีก่อน การรัฐประหาร 19 กันยา 2549 เป็นจุดหักเหครั้งสำคัญของการเมืองไทยตรงที่เป็นการเริ่มต้นของแนวคิด อุดมการณ์ และกระบวนการที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติมาจนทุกวันนี้ใน 3 เรื่องที่ส่งผลเชื่อมโยงกัน
1. หลักการที่ว่ากองทัพไม่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งต่อมาได้มีการออกกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามหลักการนี้มาจนปัจจุบัน
2. การใช้ฝ่ายตุลาการเข้ามาจัดการกับการเมืองที่เรียกกันว่า “ตุลาการภิวัฒน์” ซึ่งนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม การลงโทษย้อนหลัง การเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย และการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และทำร้ายผู้เห็นต่างโดยกระบวนการยุติธรรมเอง
3. การสมคบกันของผู้มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายโดยจงใจส่งเสริมให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายได้อย่างไม่จำกัดในการเคลื่อนไหวต่อต้านโค่นล้มรัฐบาล สร้างสถานการณ์ให้อยู่ในสภาพที่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถบริหารประเทศได้เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร
.
ถึงแม้ความพยามที่จะกำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองต่อจากการรัฐประหารครั้งนั้นถูกประชาชนปฏิเสธทั้งโดยการเคลื่อนไหวต่อต้านอย่างสันติ และการออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งที่มีขึ้นในเวลาต่อมาถึงสองครั้ง จนฝ่ายผู้มีอำนาจที่ไม่นิยมประชาธิปไตยเห็นการรัฐประหารครั้งนั้นเป็นเรื่อง “เสียของ” แต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ก็ได้วางรากฐานสำหรับระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่ได้รับการเสริมสร้างต่อยอดด้วยการทำรัฐประหารเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพล้าหลังเสื่อมโทรมไม่เป็นอารยะต่อเนื่องมาจนกระทั่งทุกวันนี้
——————————-